วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

ข้อดี-ข้อเสีย ของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์



การลงทุน อสังหาริมทรัพย์  ในปัจจุบัน มีความเสี่ยง ต้องคิดถึงปัจจัย ค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างควบคู่กันไปด้วย เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าครองชีพ  เป็นต้น อย่างการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็จำเป็นต้องไตร่ตรองก่อนเช่นกัน ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าที่จะได้รับ และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบครอบ  ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

ข้อดีของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
1. ได้ผลตอบแทน อสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การซื้อมาขายไปเท่านั้น ยังสามารถปล่อยเช่าเก็บเงินรายเดือนได้ ซึ่งสามารถนำค่าเช่านี้มาผ่อนอสังหาริมทรัพย์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งส่วนนี้จริงๆ ถือเป็นกำไร หรือสุดท้ายหากต้องการขายต่อ ก็จะได้เงินทั้งจากการขาย และส่วนต่างจากค่าเช่าอีกด้วย หากวางแผนดีๆ อาจจะได้กำไร 2 ต่อเลย
2. เป็นเจ้านายตัวเอง แม้ว่าจะยังเป็นพนักงานประจำอยู่ ก็สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้ เพราะการลงทุนนี้ไม่จำเป็นต้องมานั่งทำงาน สามารถกำหนดและควบคุมรายรับ รายจ่าย และจัดการปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองได้ มีอิสระในการคิดและลงมือทำ
3. ความผันผวนต่ำ ราคาอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันหรือสองวัน แต่ใช้ระยะเวลานานเป็นปีๆ กว่าจะมีการขึ้นหรือลงของราคา ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จะค่อนข้างมั่นฝจในการลงมุนในอสังหาริมทรัพย์ มั่นใจได้ว่าเงินต้นจะไม่หายไปอย่างรวดเร็วแน่นอน แต่นักลงทุนควรต้องศึกษามาเป็นอย่างดีแล้วว่าทำเลที่เลือกนั้นจะสามารถเพิ่มขึ้นได้
4. ผู้อื่นมาลงทุนให้ได้ ก็คือเงินของธนาคารนั่นเอง นักลงทุนบางครั้งอาจจะกู้เงินจากธนาคารได้เกือบ 100%  หากการลงทุนประสบความสำเร็จ ก็ถือว่าคุณสามารถทำกำไรได้โดยไม่ต้องควักเงินตัวเองเลย
5. สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้
    - ดอกเบี้ยเงินกู้หักภาษี เมื่อมีการกู้เงินซื้อบ้าน สามารถเอาดอกเบี้ยที่ผ่อนบ้านมาลดหย่อนภาษีได้ตาม จำนวนเงินที่ได้จ่ายไปจริง (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท)5.2 หักค่าเสื่อมตามระยะเวลา เป็นวิธีคำนวณที่กฎหมายกำหนด ซึ่งความเป็นจริงทรัพย์อาจไม่ได้เสื่อมเต็มมูลค่าที่เรา­ขอลดหย่อน
    -  ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ เมื่อขายบ้านที่ถือครองเกิน 5 ปีก็ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ


ข้อเสียในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กันบ้าง
1. สภาพคล่องอสังหาริมทรัพย์ เป็นทรัพย์ที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการซื้อ ขาย หรือ เปลี่ยนมือเจ้าของ ดังนั้นการจะขายอสังหาริมทรัพย์อาจจะได้ได้ทำได้ภานในไม่กี่วัน อาจจะต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือน หรือเป็นปี ในการตัดสินใจ
2. ใช้เวลาหาอสังหาริมทรัพย์ที่ดี เป็นเรื่องยากที่จะหาสิ่งที่ดีที่สุด ต้องใช้เวลาหาสิ่งที่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งราคาและทำเล รวมถึงขั้นตอนในการติดต่อหรือ หาเงินทุนจากธนาคาร ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความอดทนและความทุ่มเทเป็นอย่างมาก
3. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม อาจจะเป็นต้นทุนที่หลายคนมองข้ามไป เพราะอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เพียงแค่ซื้อมาทิ้งไว้เฉยๆ หรือคิดว่ามีคนเช่าแล้วจะสบายแต่อสังหาริมทรัพย์ก็ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้วยการซ่อมแซมให้ดูใหม่อยู่เสมอด้วย เพราะหากปล่อยปละละเลยไม่สนใจก็จะทำให้อยู่ในสภาพทรุดโทรม มูลค่าก็อาจจะลดลงไปด้วย

     เมื่อทราบข้อดี ข้อเสียแล้ว หลายๆคนคงทราบแล้วว่าการลงทุนทุกการลงทันมีความเสี่ยง ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจนะคะ 

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดต่างจังหวัด





       ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ต่างจังหวัดจะมีตึกสูงระฟ้าเป็นที่อยู่อาศัยที่เรียกกันว่า คอนโดมิเนียม  เพราะถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ตากอากาศของคนกรุงเทพฯ หรืออีกแง่ก็เป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อมาเทียบกับ ณ เวลาปัจจุบันคอนโดฯ ในสถานที่เหล่านี้ผุดกันเป็นดอกเห็ดเลยทีเดียว  และไม่ใช่แค่จังหวัดที่ชาวต่างชาติอยู่กันเยอะเท่านั้น ปัจจุบันหลายๆ จังหวัดก็เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมผุดขึ้นมาบ้างแล้ว อย่าง เช่นภาคอีสาน ก็เช่น อุบลฯ ขอนแก่น อุดรฯ สกลนคร นี่ก็มี ภาคใต้ก็ จังหวัดตรัง สุราษฯ และอีกหลายจังหวัดก็กำลังผุดตามๆมา 
            
                 นอกจากนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี เป็นทั้งเมืองท่องเที่ยว ระบบเศรษฐกิจในจังหวัดก็มีตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจก็สูง จังหวัดเหล่านี้ก็อาทิ เชียงราย ระยอง  ขอนแก่น ก็มีวี่แววว่าจะมีการขยายตัวของคอนโดฯ เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะประชากรในจังหวัดมีมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไปและเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ทำเลเหล่านี้ก็จะเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกด้วย


                การตลาดนึงที่เห็นได้ชัดก็คือ การชูจุดขายของการเป็น ที่อยู่อาศัยเมื่อยามเกษียณที่ฮิตกันอย่างยิ่งก็คือ เชียงใหม่ และ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นความลงตัวของความสงบ ความสะดวกสบายและอากาศที่ดี ยิ่งเมื่อ กทม.เผชิญกับวิกฤตการณ์ น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อสองปีก่อน ยิ่งทำให้ทำเลดังกล่าวมีราคาสูงขึ้นในทันที

                ตลาดคอนโดฯ สู่ตลาดต่างจังหวัดนั้นมีทั้งรูปแบบการชูจุดขายเพื่อเป็น บ้านพักตากอากาศ ในยามช่วงวันหยุด ทีนี้เรามาลองพิจารณากันว่า ต้องใช้ปัจจัยใดบ้างประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมต่างจังหวัด

1. ทำเลที่ดี ไม่ว่าจะซื้อบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม ในเมืองหลวงหรือต่างจังหวัด เรื่อง ทำเลต้องมาก่อนปัจจัยอื่นๆ เสมอ เพราะหากซื้อคอนโดมิเนียมที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน ย่านการค้า มหาวิทยาลัย ร้านซักรีด บริการต่างๆ ฯลฯ มีการคมนาคมที่สะดวกปลอดภัย ใกล้ถนนใหญ่

           
2. ยิ่งสูง ยิ่งแพง ราคาขายแต่ละห้องแต่ละยูนิตของคอนโดมิเนียมนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งของห้องยิ่งอยู่ชั้นที่สูง ก็ยิ่งราคาแพงเพราะจะได้วิวที่สูงกว่า ดังนั้นหากงบประมาณถึงพร้อมก็เลือกห้องที่อยู่ชั้นสูงๆ ไปเลย นอกเสียจากว่าเป็นคนที่กลัวความสูงก็อาจจะเลือกชั้นที่เตี้ยที่สุด เช่นเดียวกัน ซื้อคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่า การเลือกชั้นที่สูงก็สามารถตั้งราคาค่าเช่าได้สูงตามไปด้วย

3. เลือกทั้งที ต้องมีวิวสวย การเลือกซื้อคอนโดฯ ในต่างจังหวัด ยิ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวแล้ว แน่นอนว่าย่อมมีจุดขาย อาทิเช่น ถ้าเป็นทำเลที่มีทะเล จุดขายก็อยู่ที่วิวทะเล วิวภูเขา มุมเมือง  เพื่อความสะบายตา ถ้าเป็นคอนโดฯ ที่อยู่บนภูเขา ทำเลก็คือทิวทัศน์ป่าไม้ธรรมชาติที่สวยงาม ถ้าเรื่องของงบประมาณไม่ใช่ข้อจำกัด 


4. ทิศของห้อง โดยปกติคนที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยคงไม่เลือกห้องที่หันหน้าหรือข้างไปทิศตะวันตกอยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้เชื่อเรื่องนี้ แต่โดยธรรมชาติแล้วการหันหน้าหรือด้านข้างไปทางทิศตะวันตกนั้นจะทำให้ผู้อยู่อาศัยเผชิญกับแดดในยามบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ซึ่งทำให้ห้องมีอากาศร้อนไปจนถึงตอนเย็น ดังนั้นถ้าเลือกได้ก็แนะนำให้เลือกห้องที่หันด้านหน้าหรือด้านข้างไปทางทิศตะวันออก เพราะตื่นเช้ามาแสงแดดก็จะช่วยปลุก และในช่วงบ่ายห้องจะได้มีเวลาในการระบายความร้อนออกก่อนที่เจ้าของห้องจะกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น และทำให้ประหยัดแอร์กว่าห้องทางทิศตะวันตกในตอนกลางคืน พยายามหาด้านที่หันหน้าหรือข้างไปทางทิศตะวันออกเพราะว่าจะได้รับแดดเช้า ส่วนตอนบ่ายไม่โดนแดด ตอนค่ำกลับเข้ามาห้องจะได้ไม่ร้อนถ้าเลือกทิศอื่นไม่ได้จริงๆ ก็พยายามเลี่ยงอย่าให้ห้องหันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งจะเจอแดดตอนบ่ายและเย็นทำให้ห้องยังร้อนอยู่

5. ผู้ประกอบการ เรื่อง Brand ก็หมายถึงเรื่องของ ชื่อเสียง”  ชื่อเสียงของบริษัทก็เหมือนชื่อเสียงของคน สิ่งที่เคยทำมาในอดีตจะแสดงถึงภาพลักษณ์ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็อาจจะได้เปรียบในเรื่องของ Brand เพราะโครงการเก่าๆ ในอดีตก็มีให้เห็นอยู่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า รายเล็กๆ หรือบริษัทอสังหาฯ เจ้าใหม่ๆ จะมีผลงานที่ด้อยกว่าเสมอแต่อย่างใด

6. สิ่งที่อยู่ข้างในนั้น ในความหมายนี้ก็คือ ถ้าจะให้ดีควรจะสืบหาให้รู้ให้ได้ว่า บริษัทก่อสร้างบริษัทใดที่สร้างโครงการนั้นๆ เพราะไม่ใช่แค่ แบรนด์ ของ Developer เท่านั้นที่สำคัญ ชื่อเสียงของบริษัทก่อสร้างก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ถ้าบริษัทก่อสร้างมีชื่อเสียงดี ผลงานที่ผ่านมาได้รับการยอมรับ เราก็สามารถมั่นใจได้ว่า คอนโดมิเนียม หลังใหม่ของเรานี้จะมีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน และสวยงามไปอีกนานเท่านาน และอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ

7. ความคุ้มค่า ปัจจัยนี้เราต้องคำนึงว่าความตั้งใจที่จะซื้อคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดเพื่อวัตถุประสงค์อะไร?! เพราะถ้าซื้อเพื่อลงทุนก็ต้องพิจารณาดูว่ากลุ่มลูกค้าในทำเลนั้นคนกลุ่มไหนจะมาเช่า ถ้าอยู่ในจังหวัดที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมอย่าง ระยอง ชลบุรีฯลฯ คนเช่าก็เป็นคนที่ไปทำงานอยู่ที่นั่นที่ไม่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยดังนั้นผู้เช่ากลุ่มนี้ก็คงไม่ต้องการคอนโดฯ ที่ราคาสูงลิบหรือมีความหรูหรามากนัก ดังนั้นลักษณะคอนโดฯ ที่จะซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็ไม่ควรจะลงทุนซื้อห้องราคาแพงมากแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นทำเลเมืองท่องเที่ยว กลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเช่าในระยะสั้น และเราต้องการชูจุดขาย  ดังนั้นหากที่อยู่อาศัยหลังแรกยังคงต้องผ่อนอยู่ การผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกันถึงสองที่ คงไม่ใช่เรื่องที่สบายกระเป๋านัก 

8. ที่จอดรถ  ต้องยอมรับเลยว่าการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม กทม. นั้น เรื่องจำนวนที่จอดรถเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวในการตัดสินใจ เพราะหาคอนโดฯ ที่มีที่จอดรถให้กับลูกบ้านเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ได้ยากเย็นเต็มที เพราะราคาที่ดินแพง (เอาไปทำที่อยู่อาศัยดีกว่า) แต่สำหรับคอนโดฯ ต่างจังหวัดแล้ว เรื่องจำนวนที่จอดรถอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เพราะราคาที่ดินไม่ได้สูงปรี๊ดเท่าในเมืองหลวง หรือต่อให้ที่จอดรถมีไม่เท่ากับจำนวนห้อง ก็เป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเท่านั้น เพราะคนที่เลือกซื้อคอนโดฯ ต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนในวันหยุดก็ไม่ได้มีเรื่องให้ต้องรำคาญใจทุกๆ วันซะที่ไหนละ

       จากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว แต่ยังคิดไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อคอนโดฯ ที่จังหวัดไหนเพื่อเป็นคอนโดฯ ตากอากาศดี ก็ให้ลองนึกดูว่าชอบภูเขาหรือทะเล ถ้าคำตอบเป็นภูเขาหรืออากาศดีๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น เชียงใหม่ เชียงราย และเขาใหญ่ ซึ่งเป็นทำเลยอดฮิตในชั่วโมงนี้ แต่ถ้าเลือกทะเล ก็คงจะเป็นหัวหิน ชะอำ ระยอง หรือชลบุรี นั่นเอง



วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

เคล็ดลับสู่ความร่ำรวย จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์



        อาชีพที่คนส่วนใหญ่มองและเข้าใจว่าสามารถสร้างความร่ำรวยแบบก้าวกระโดดให้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ก็คงหนีไม่พ้น การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก็คงเป็นการเข้าใจที่ไม่ผิด เนื่องจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มีหลากหลายรูปแบบและบางรูปแบบยังไม่ต้องใช้เงินลงทุน แต่สามารถสร้างผลกำไรให้กับนักธุรกิจได้อย่างน่าพอใจ

สูตรสำเร็จสู่ความร่ำรวย จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

       ความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะนักลงทุนที่มีทักษะและมีความรู้ความสามารถ โอกาสจะประสบความสำเร็จ มีความมั่นคงทางการเงินทำได้ไม่ยาก จากสูตรสำเร็จต่างๆต่อไปนี้

1. มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

      การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามาก ถึงแม้การเรียนรู้ที่ดีที่สุดก็คือการเรียนรู้จากความผิดพลาด หากมีการศึกษารูปและรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการลงทุนจากนักลงทุนมืออาชีพ ศึกษาในหนังสือหรือตำรา จากผู้มีความรู้เกี่ยวกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ก็เป็นวิธีหนึ่งที่นอกจากช่วยให้มีความรู้มีทักษะเกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ยังลดความเสี่ยงหรือความผิดพลาดในการลงทุนได้อีกด้วย

2. เรียนรู้จากการลงมือทำ
      การมีทักษะความรู้เพียงอย่างเดียว ไม่อาจทำให้นักลงทุนประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ นอกจากการลงมือทำหรือเริ่มต้นธุรกิจด้วยการเลือกดูอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เกิดเสนอต่อรองราคา และนำไปสู่การซื้อขายในที่สุด

3. การทำงานเป็นทีม
       การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากทำเพียงคนเดียว การทำงานเป็นทีม คือสูตรสำเร็จที่จะทำไปสู่ความมั่นคง เพราะปัจจุบันการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นอกจากผู้ขายและผู้ซื้อแล้ว ยังมีตัวกลางคอยเชื่อมโยงความต้องการของผู้ซื้อผู้ขาย อาทิ

       นายหน้าท้องถิ่น ได้แก่ ผู้ที่ต้องการซื้อบอกความต้องการผ่านคนรู้จัก ขณะที่ผู้ขายบอกความประสงค์ที่จะขายไปยังคนรอบๆข้าง ดังนั้นคนที่คอยประสานการติดต่อเพื่อให้เกิดการซื้อขายก็คือนายหน้าท้องถิ่นที่มีผลประโยชน์จากการซื้อขายในครั้งนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่กว้างขวางในแต่ละพื้นที่ เช่น หัวหน้าชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน หรือคนที่ทำอาชีพนายหน้าซื้อขายอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ

      นายหน้าตัวแทน ได้แก่ ตัวแทนของผู้ซื้อหรือผู้ขายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยตรง  นายหน้าประเภทนี้เป็นคนที่เข้ามาเป็นตัวแทนหรือได้รับมอบหมายให้เป็นคนติดต่อกับฝ่ายซื้อหรือฝ่ายขาย โดยได้รับส่วนแบ่งจากผู้ซื้อหรือผู้ขาย ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้

       นายหน้าโครงการ นายหน้าประเภทนี้ถือเป็นนายหน้าวิชาชีพ ซึ่งทำงานให้กับบริษัทหรือนิติบุคคล ส่วนใหญ่นายหน้าโครงการมักจะเป็นบริษัทซึ่งแยกตัวออกมาจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับการขายกับโครงการต่างๆเพียงอย่างเดียว
     เป็นไงบ้างคะ สำหรับสูตรสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 ข้อ คือสิ่งที่จะนำพานักลงทุนให้ประสบความสำเร็จสู่ความมั่งคั่งและมีฐานะที่มั่นคงได้ตามที่ต้องการนั่นเอง

เรื่องน่ารู้ การขอสินเชื่อก่อนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์




      การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นอกจากการใช้เงินทุนของตนเองที่มีอยู่แล้ว แหล่งเงินทุนของนักธุรกิจส่วนใหญ่ก็คือสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นสิ่งที่นักลงทุนถือปฏิบัติกันอยู่แล้ว แต่การจะขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินให้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งนักลงทุนต้องศึกษารายละเอียดเสียก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขอสินเชื่อเพื่อการลงทุนนั่นเอง

การขอสินเชื่อ เรื่องน่ารู้ก่อนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

       การขอสินเชื่อหรือกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ผู้กู้จะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่สถาบันการเงินกำหนด โดยทั่วไปผู้กู้จะต้องมีคุณสมบัติหลักๆ 2 ข้อ ดังนี้

1. การมีเครดิตที่ดี
      คุณลักษณะของการมีเครดิตที่ดี คือการมีวินัยในการชำระสินเชื่อในอดีต ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ถึงการรักษาสัญญาในการชำระสินเชื่อ ว่ามีความสามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลาหรือไม่อย่างไร เมื่อมีปัญหาการเงินช่วงใดช่วงหนึ่ง มีวิธีการจัดการแก้ไขปัญหาอย่างไร เช่น ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหา ประวัติเครดิตเหล่านี้ตรวจสอบได้จากรายงานเครดิตบูโร

2. เป็นผู้มีรายได้สม่ำเสมอ
      การมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ หมายถึง ความสามารถของผู้ขอสินเชื่อที่จะสามารถชำระสินเชื่อได้ในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ที่มีรายได้ประจำหรือเป็นพนักงานรับเงินเดือนทั่วไปได้เปรียบมากในการขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ และการมีรายได้อย่างสม่ำเสมอยังแสดงถึงความมั่นคงของรายได้ที่จะนำไปชำระหนี้ในอนาคตได้ด้วย

ขั้นตอนการเตรียมขอสินเชื่อเพื่อการลงทุนจากสถาบันการเงิน

1. เปิดบัญชีเงินฝาก

      การเปิดบัญชีเงินฝาก ถือเป็นหลักฐานทางการเงินที่สามารถตรวจสอบสถานภาพทางการเงินของบุคคลได้ในเบื้องต้น หากบริหารการเงินโดยมียอดฝากถอนเพื่อเป็นการเดินบัญชีอย่างต่อเนื่อง ก็จะเป็นการสร้างเครดิตทางการเงินได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีเงินคงค้างในบัญชีเป็นเวลานานๆ

2. สมัครบัตรเครดิต

      การมีบัตรเครดิตและสามารถรับผิดชอบภาระหนี้ได้ เป็นประวัติการเงินที่ดีอย่างหนึ่ง สิ่งสำคัญคือต้องการระเบียบวินัยในการใช้บัตรเครดิต เพราะนอกจากสร้างเครดิตบ่งบอกความสามารถในการชำระหนี้ได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นหนี้ที่ต้องเสียดอกเบี้ยสูงๆและยังเสี่ยงต่อความไม่น่าเชื่อถือได้ หากประวัติการชำระสินเชื่อไม่ดีพอ

3. ซื้อสินค้าผ่อนส่ง

      การสร้างเครดิตที่ดี ทำได้หลายรูปแบบ เช่น การผ่อนชำระค่าสินค้าเป็นรายงวด ผ่อนรถยนต์ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยผ่อนชำระตรงเวลาและเต็มจำนวนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างเครดิตที่ดีหรือทำให้มีประวัติทางการเงิน


      การขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ นอกจากศึกษารายละเอียดและขั้นตอนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับตนเองแล้ว รายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละสถาบันการเงินมีข้อแตกต่างกัน ดังนั้น หากต้องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินใด ควรเลือกศึกษาเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆประกอบด้วย เพื่อให้มีปัญหาในการขอสินเชื่อน้อยที่สุด

วิธีเลือกซื้อคอนโดมือสอง เพื่อการลงทุน อสังหาริมทรัพย์





        คอนโดมิเนียม เป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่พักอาศัยยอดนิยมของคนเมือง ที่ช่วยให้สะดวกสบายในการเดินทาง เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง อยู่ใกล้ที่ทำงานของผู้พักอาศัยหรืออยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าทำให้ย่นระยะเวลาในการเดินทางและช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่การเลือกซื้อหรือลงทุนในคอนโดที่เป็นโครงการใหม่ๆก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากมีราคาสูงแล้วคอนโดใหม่ๆอาจมีนักลงทุนทำการจองเพื่อเก็งกำไร จนทำให้ราคาที่สูงอยู่แล้วกลับสูงมากยิ่งขึ้น การเลือกซื้อคอนโดมือสองจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
      เมื่อคอนโดมีเนียมโครงการใหม่ๆมีราคาสูง ถึงแม้นักลงทุนจะสามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ แต่ความสามารถในการผ่อนชำระไม่ได้ การเลือกซื้อคอนโดมือสองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน โดยมีวิธีเลือกซื้อดังนี้

1. ทำเลที่ตั้ง

      ถึงแม้จะเป็นคอนโดมือสองเรื่องของทำเลที่ตั้งก็ยังมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างมานานแล้ว และอาจมีความสมบูรณ์แบบในเรื่องอื่นๆแต่ความเจริญใหม่ๆ ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ทัศนียภาพหรือทำเลที่ตั้งไม่เหมาะสม เช่น ทางเข้าออกเล็กแคบ หรือถูกบดบังด้วยอาคารสูง

2. ขนาดพื้นที่ใช้สอยและสภาพห้อง

       คอนโดมือสองมักได้รับการตกแต่งต่อเติมเพื่อให้เหมาะกับการใช้ประโยชน์ของผู้อยู่อาศัยเดิม หรือหากไม่ได้รับการตกแต่ง ก็อาจอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม ดังนั้น การเลือกซื้อจึงต้องพิจารณาถึงขนาดพื้นที่และสภาพห้อง เพื่อคำนวณงบประมาณในการซ่อมแซมว่ามีความคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่

3. ราคาซื้อขาย

       ควรพิจารณาหาข้อมูลราคาซื้อขายทั้งจากโครงการใหม่ๆและคอนโดมือสองที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน เพื่อนำมาเปรียบเทียบราคาที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน

4. พิจารณาจากกลุ่มคนที่พักอาศัย

       การพิจารณาคนส่วนใหญ่ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดนั้นๆเป็นสิ่งสำคัญ และมีผลต่อการลงทุน เช่นการกำหนดราคาค่าเช่า ในกรณีที่นำมาปล่อยเช่า เป็นต้น

5. การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

      การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้วิธีขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน การซื้อคอนโดมือสองก็เช่นเดียวกัน แต่การปล่อยสินเชื่ออาจได้รับวงเงินไม่ครบเต็มจำนวน ดังนั้น สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อคอนโดมือสองที่สำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ในกรณีที่ได้รับอนุมัติไม่เต็มวงเงิน นักลงทุนจึงต้องมีเงินทุนสำรองไว้สำหรับส่วนต่างนี้ด้วย


       การเลือกซื้อคอนโดมือสองเพื่อการลงทุน มีวิธีพิจารณาและขั้นตอนการลงทุนที่ไม่ยุ่งยาก แต่ปัญหาใหญ่สำหรับการลงทุนในรูปแบบนี้ก็คือ จำนวนเงินที่ต้องนำมาชำระค่าส่วนต่าง รวมถึงงบประมาณในการซ่อมแซม หากนักลงทุนพิจารณาเลือกซื้อคอนโดมือสองที่อยู่ในสภาพดีและอยู่ในทำเลที่เหมาะสมตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก็อาจประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ไม่ยาก







ที่มา landinvestingthai

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ทางเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุน


     

     บ้านและที่ดิน ถือเป็นทรัพย์สินที่ทุกคนและทุกครอบครัวมุ่งหวังที่จะมีไว้ครอบครอง และความต้องการก็ยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถือว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ไขข้อสงสัยที่ว่า เหตุใดจึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจและน่าลงทุน วันนี้เรามีคำตอบมาให้จ้า

เรื่องของกำไรหรือผลตอบแทน

       การซื้อขายบ้านและที่ดิน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เพราะเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงมากถึง 100 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า ซึ่งยากมากที่จะหาการลงทุนอื่นมาเทียบได้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่พบเห็น มักเป็นไปในรูปของการเก็งกำไรมากกว่าการลงทุน เช่น การซื้อมาขายไป หรือซื้อไว้เพื่อเก็งกำไรโดยเฉพาะ แต่ถึงอย่างไรการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะทำในรูปของการเก็งกำไรหรือการลงทุน ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่น่าสนใจมากที่สุด

มีความเสี่ยงต่ำ

      การลงทุนบ้านและที่ดิน นอกจากให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นแล้ว ยังมีความเสี่ยงในการลงทุนต่ำ เนื่องจากบ้านเป็นทรัพย์สินจำเป็นที่มีจำกัด แต่เป็นที่ต้องการสูง บ้านและที่ดินยังเป็นสินทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ และนำมาหาผลตอบแทนได้อย่างกว้างขวาง ทั้งในรูปของมูลค่าเพิ่ม การซื้อมาขายไป หรือค่าเช่า เมื่อเปรียบกับการลงทุนอื่นถือว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก

มีแหล่งเงินทุนสนับสนุน

       การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งเงินทุนหรือสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งสามารถกู้ยืมเงินมาลงทุนได้ในสัดส่วนที่สูงมาก และยังกู้ได้ในระยะยาว มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษ นอกจากมีแหล่งเงินทุนแล้ว ยังเป็นธุรกิจที่มีมาตรการเกื้อหนุนจากภาครัฐอีกทางหนึ่งด้วย

คู่แข่งมีน้อย

       การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังจำกัดอยู่ในวงแคบ และยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร ซึ่งมีผลมาจากการขาดนักลงทุน ที่มีความรู้ความเข้าใจในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างแท้จริง จึงทำให้มีคู่แข่งน้อย

โอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจสูง

       บ้านคือที่พักอาศัย และเป็นสถานที่แรกที่คนเราจะนึกถึงเมื่อรู้สึกอ่อนล้า หรือต้องการพักผ่อน ดังนั้นทุกคนจึงมุ่งหวังที่จะได้เป็นเจ้าของและได้ครอบครอง บ้านและที่ดินจึงเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะต่อการลงทุน เนื่องจากความต้องการมีสูง นักธุรกิจมีไม่มากให้ผลตอบแทนดีและมีความเสี่ยงต่ำ โอกาสประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจจึงมีมาก

      อสังหาริมทรัพย์ เป็นทรัพย์สินที่มีอยู่จำกัด ไม่สามารถหามาทดแทนกันได้ โดยเฉพาะในทำเลที่ดีๆ ถึงแม้ราคาบ้านและที่ดินจะสูงมากขึ้น แต่การซื้อขายก็ยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งผิดกับการลงทุนแบบอื่นๆ ด้วยเหตุผลนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุน ในยุคนี้นั่นเอง

7 วิธีง่ายๆ รวยด้วยอสังหาริมทรัพย์




    การลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน คอนโด บ้าน ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และอื่นๆ  นับวันยิ่งมีนักลงทุนทั้งมือเก่าและมือใหม่เข้ามาให้ความสนใจกันมากขึ้น นั่นเป็นเพราะการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ในขณะที่ใช้เงินลงทุนเพียงน้อยนิด ถ้าคุณเรียนรู้วิธีและเทคนิคในการลงทุนนั่นเอง

การลงทุนอสังหาฯ  ถ้าเรามองลงไปลึกๆ มีสารพัดวิธีในการสร้างรายได้ให้กับเรา แต่วันนี้จะสรุปวิธีง่ายๆ ที่จะรวยด้วยอสังหาฯ มาแนะนำกันนะคะ ไปดูกันคะว่ามีอะไรบ้าง

1.  แบบปล่อยเช่ารายเดือน เป็นช่องทางการลงทุนขั้นพื้นฐานที่ใครๆ ก็ชอบ เพราะได้เป็นเสือนอนกิน เริ่มจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด อาคารพาณิชย์ ห้องเช่า จากนั้นก็นำมาปล่อยเช่าเก็บรายได้ทุกเดือนๆ โดยใช้แรงแค่การบริหารเพียงไม่กี่วันต่อเดือนเท่านั้น แต่หลักสำคัญของการลงทุนแบบปล่อยเช่านั้น คือ ทำเลและกลุ่มเป้าหมายผู้เช่ารายได้จากการปล่อยเช่าขึ้นอยู่กับทำเลและต้นทุนที่ลงทุนไป เช่น ถ้าได้ทรัพย์มาในราคาที่ถูก อยู่ในทำเลที่ดี ย่อมได้ค่าเช่าดี รายได้ต่อเดือนก็ย่อมสูงประมาณ 8-12% เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ควรต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ ในกรณีที่กู้เงินมาลงทุน


2. แบบปล่อยเช่ารายวัน เดิมทีค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้าน คอนโด ห้องเช่า อพาร์ทเมนต์ มักเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือน แต่ก็มีกรณีที่ทำเลนั้นเป็นทำเลที่มีความต้องการมาก มีผู้คนหมุนเวียน เดินทางมาแวะพัก นักท่องเที่ยวบางคนไม่ต้องการพักโรงแรม หรือที่พักที่มีราคาแพง ขออาศัยเพียงแค่ที่หลับนอนที่พออำนวยความสะดวกได้บ้าง ด้วยความต้องการแบบนี้จึงมีนักลงทุนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เช่าบ้าน ตึก อาคารพาณิชย์ ในทำเลที่ดีแล้วลงทุนตกแต่ง แบ่งห้องให้เช่า ทำเป็นโฮสเทล ถือได้ว่าเป็นช่องทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ดีทีเดียวได้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากๆ เพียงแค่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงไป รายได้รายเดือนจะกลายเป็นรายได้รายวันทันที สิ่งสำคัญอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ ประสบการณ์จากการท่องเที่ยวและเรียนรู้ความต้องการของลูกค้าที่มาพัก หาทำเลที่เหมาะสม แค่นี้ก็สร้างรายได้ได้ไม่ยากค่ะ

3. การลงทุนแบบเก็งกำไร นับว่าเป็นช่องทางการลงทุนขั้นเริ่มต้นของนักลงทุนมือใหม่ค่ะ เพียงแค่ซื้อใบจองแล้วก็ปล่อยขายก็ทำกำไรได้แล้ว ฟังดูเหมือนง่าย แต่ในความเป็นจริงการลงทุนแบบเก็งกำไรนี้ ก็มีเทคนิคที่ควรเรียนรู้อยู่บ้าง สิ่งสำคัญที่จะสร้างรายได้ด้วยการเก็งกำไร คือ ต้องเรียนรู้เรื่องทำเล ต้องเป็นทำเลที่มีศักยภาพ โครงการที่ลงทุนต้องเป็นโครงการที่มีชื่อเสียงมีประสบการณ์ ต้องเรียนรู้เรื่องวงรอบในการทำกำไร หมายความว่า ต้องรู้ช่วงเวลาของราคา เช่น ช่วงก่อนพรีเซล หลังพรีเซล 6 เดือน 1ปี ช่วงก่อสร้าง ช่วงสร้างเสร็จ ช่วงก่อนโอน และช่วงหลังโอน เป็นต้น แต่ละช่วงสามารถทำกำไรได้แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละบุคคลค่ะ ที่สำคัญอย่าลงทุนตามข่าวกระแสหรือตามเพื่อนเป็นอันขาดค่ะ

4. แบบซ่อมแล้วขาย เป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างความร่ำรวยได้จากอสังหาริมทรัพย์ค่ะ หลายคนเจอช่องทางนี้โดยไม่รู้ตัว เพียงแค่อยากซื้อบ้านเพื่ออยู่เองแล้วมาตกแต่งสวยงาม จากนั้นก็มีคนมาเสนอราคาขอซื้อต่อ แค่นี้คุณก็สามารถทำกำไรได้แล้วค่ะ สำหรับการลงทุนแบบซ่อมแล้วขายนั้น สิ่งที่จะทำให้เราได้กำไรมากที่สุด คือ การได้ทรัพย์มาในราคาที่ถูกที่สุด ซึ่งมีหลายช่องทาง เช่น การประมูลจากกรมบังคับคดี เจ้าของร้อนเงินต้องการใช้เงินด่วน แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงถึง คือ ทรัพย์นั้นอยู่ในทำเลที่ดีพอใช้ มีโครงสร้างที่แข็งแรง ราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนั้นเราต้องเสาะแสวงหาวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการ Renovate ที่ดี ราคาถูก เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกที่สุด ที่เพียงแค่นี้เราก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพย์นั้นได้ค่ะ

5. แบบจับเสือมือเปล่า หรือการเป็นนายหน้านั่นเอง เป็นการลงทุนที่เป็นตัวเชื่อมโยง โดยการหาคนซื้อและคนขายที่มีความต้องการตรงกันให้มาเจอกันโดยผ่านตัวเราเอง เพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ได้แล้วค่ะ ส่วนมากรายได้จากการเป็นนายหน้าอยู่ที่ 2-4% จากราคาขายและขึ้นอยู่กับการตกลงตามเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญาไว้ค่ะ ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าเจอแจ็คพอตขายบ้านราคา 20 ล้าน ได้ค่านายหน้า 3% ก็เป็นเงิน 600,000 แล้วนะคะ แต่สิ่งสำคัญที่นายหน้าต้องมี คือ ความอดทน ขยัน ทักษะการเจรจา รอบรู้ในเรื่องอสังหาฯ ทำเลต่างๆ เป็นต้น

6. โดยเป็นผู้ประกอบการ หลายคนที่เริ่มต้นลงทุนอสังหาริมทรัพย์มาได้ระดับหนึ่งพอรู้ลู่ทาง ก็อยากที่จะเป็นเจ้าของโครงการเสียเองเพราะผลตอบแทนที่ได้สูงกว่า 80-100% เลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการลงทุนที่ดินแปลงเล็กๆ สร้างอาคาพาณิชย์ขาย สร้างห้องแถวขายเริ่มจาก 2-4 ห้องแล้วขยับขยายไปให้ใหญ่ขึ้น นักลงทุนบางคนฉลาดกว่านั้น คือ การใช้เงินตัวเองให้น้อยที่สุดโดยการติดต่อเจ้าของที่ดินทั้งๆ ที่ยังไม่ต้องลงทุนซื้อที่ดิน เสียเพียงค่าก่อสร้าง จากนั้นขายได้ก็แบ่งกำไรกันไป ก็นับเป็นอีกวิธีในการสร้างความร่ำรวยจากอสังหาริมทรัพย์ค่ะ


7. ลงทุนกับนักลงทุนรายใหญ่ สำหรับคนที่มีประสบการณ์ในการลงทุน มีมนุษยสัมพันธ์ดี เก่งในการเจรจาต่อรอง มีคอนเนคชั่นมาก รู้จักนักลงทุนเยอะ เป็นคนมีเครดิต มีความคิดสร้างสรรค์และไอเดีย คุณสามารถเอาประสบการณ์แลกเงินได้ โดยคุณไม่ต้องลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียว นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณรวยแบบก้าวกระโดด เพียงแค่เรานำไอเดียที่มีเสนอขายแผนธุรกิจให้กับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีเงินทุนได้ แต่คุณจะต้องมั่นใจว่าแผนโครงการนั้นๆ จะสร้างผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าให้นายทุน สิ่งสำคัญ คือ คุณต้องรู้วิธีการเขียนแผน งบการเงิน (NPV, IRR) มีประสบการณ์ในการลงทุนมาระดับหนึ่ง รู้เรื่องทำเล กลุ่มเป้าหมาย และเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญต่อการทำโครงการ จึงจะทำให้แผนนั้นน่าสนใจต่อกลุ่มนายทุน


   จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เราสามารถสร้างความร่ำรวยจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่จริงๆ ยุ้ยแนะนำว่าก่อนที่จะเริ่มลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ควรเช็คตัวเองก่อนว่า การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นช่องทางในการลงทุนที่คุณรักแล้วหรือยัง เป็นทางเลือกในการลงทุนที่คุณชื่นชอบแล้วใช่ไหม...ถ้าคำตอบคือ ใช่จะมัวรออะไร เริ่มเลยจ้า

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560

ซื้อคอนโดฯ ดีกว่าเช่าหอพักอยู่ จริงหรือ ?


ซื้อคอนโดฯ ดีกว่าเช่าหอพักอยู่ จริงหรือ ?


       เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นของชิ้นใหญ่ มีราคาสูง การเลือกซื้อจึงมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะนำมารวมกันเพื่อตัดสินใจ สิ่งสำคัญลำดับแรกคือปัจจัยของผู้ซื้อเข้าใจว่าผู้ตั้งกระทู้นี้ต้องการซื้อคอนโดฯ เพื่อพักอาศัยเอง ไม่ใช่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า เพราะฉะนั้น คำตอบอันแรกสุดคือ ซื้อคอนโดฯ ดีกว่าเช่าหอพักแน่นอน

      วิธีคิดก็คือ การเช่าหอพักหรืออพาร์ตเมนต์อยู่อาจจะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมด้านการเงิน เช่น ยังอยู่ระหว่างเรียน หรือลงขันกับเพื่อน ๆ เช่าอยู่ห้องเดียวกัน แต่อย่าลืมว่าค่าเช่าที่เราจ่ายทุกเดือน เป็นการ "จ่ายทิ้ง" หรือ "จ่ายขาด" จ่ายออกไปเงินก็ไปแล้วไปลับไม่กลับมาเลย

     เพราะฉะนั้น ถ้าเริ่มมีความพร้อม หรือเริ่มเป็นมนุษย์เงินเดือน มีงานทำ การวางแผนใช้เงินเป็นสิ่งที่จำเป็น และสนับสนุนให้ทำ กรณีกำลังเช่าหอพักอยู่ เนื่องจากไม่มีรายละเอียดมาให้ว่าเช่าอยู่เท่าไหร่ ทำเลไหน ใกล้อะไร ดังนั้น ขอแนะนำกว้าง ๆ ดังนี้

      สมมติคุณเช่าหอพักอยู่ เดือนละ 4,500 บาท (สอบถามกลุ่มตัวอย่างมาแล้ว ราคาตก 4,000-4,500 บาท) บวกค่าน้ำค่าไฟตก 6,000 บาท น่าจะลองหาคอนโดฯ ราคาไม่แพง ทำเลริมถนนได้ยิ่งดี ให้งวดผ่อนใกล้เคียงกับค่าเช่า เพียงเท่านี้การตัดสินใจก็น่าจะง่ายขึ้นมาแล้ว

     วิธีคิดต่อมาคือ การผ่อนคอนโดฯ สมมติจ่ายค่างวดเดือนละ 6,000  บาทเท่า ๆ กับค่าเช่าหอพัก แต่อย่าลืมว่า asset หรือทรัพย์สินเป็นของเรา ถ้าจะย้ายที่ทำงานหรืออยากขายออก ก็สามารถขายได้หรือทำได้เพราะเป็นของเรา และส่วนใหญ่ถ้าเลือกทำเลริมถนนจะสามารถขายได้ในราคาดี หมายถึงมีกำไรด้วย หรือขี้เหร่สุดก็เท่าทุน

เท่ากับว่า การผ่อนคอนโดฯ แต่ละเดือน เท่ากับเป็นการ "ฝากเงิน" ไว้ในคอนโดฯ ไม่ใช่ "จ่ายทิ้ง" ให้กับค่าเช่าหอพัก


      ของแถมจากการซื้อคอนโดฯ แทนการเช่าหอพักก็คือ คอนโดฯ ถ้าเป็นของเรา อยากตกแต่ง ติดแอร์ ตอกตะปูแขวนรูป หรือตกแต่งยังไงก็ได้ตามใจชอบ ไม่เหมือนอยู่หอพักกฎระเบียบหยุมหยิม อยากแขวนรูปข้างฝาเจอค่าปรับค่าตอกตะปูรูละ 200-300 บาท นั่นเอง