วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เงินเดือน 15,000 ก็มาสามรถซื้อคอนโดได้




        การเลือกซื้อคอนโดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แน่นอนว่าหลายๆ คนยังติดปัญหาเงิน หรอทุนทรัพย์ที่จะมาซื้อคอนโดนั่นเอง เพราะคอนโดแต่ละโครงการนั้นราคาไม่ใช่ถูกๆ หลักล้านขึ้นทั้งนั้น  ไม่ใช่แค่ถูกใจ จ่ายเงิน แล้วพร้อมเข้าอยู่  นอกจากค่าจอง ค่าทำสัญญาแล้ว ยังมีส่วนต่าง เช่น ค่าส่วนกลาง รักษาบำรุง ฯลฯ คิดมาแล้วก็เยอะไม่เบาทำให้เรามองไปที่ค่าใช้จ่ายที่คิดว่าจำนวนมากมาย เงินเดือนแต่ละเดือนจะพอไหม ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกที่ตามมา จะต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะสู้ไหว วันนี้เราจึงมี วิธีการคำนวณหาจำนวนเงินที่เราจะมีกำลังในการกู้ซื้อคอนโดได้ จากหลักของการกู้ทั่วไปมาฝากกันค่ะ

ผู้กู้สามารถแบกรับภาระได้ไม่เกิน 40% ของรายได้เท่านั้น"
เช่น ผู้กู้มีเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถผ่อนบ้านสูงสุดได้ 15,000 x 40% = 6,000 บาท
หากผู้กู้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนจะสามารถผ่อนบ้านเป็นจำนวนเงินได้ 6,000 บาท ที่สำคัญเราต้องไม่มีหนี้สินผ่อนชำระสินค้าอื่น ๆ หากเรามีหนี้สินอื่น ๆ เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 5,000 บาท ก็ทำให้ผู้กู้เหลือความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลง (6,000–5,000) เหลือเพียง 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น

ถ้าเราสามารถผ่อนบ้านเป็นจำนวนเงินได้ 6,000 บาท จะสามารถกู้ซื้อบ้านได้วงเงินตามนี้
ระยะเวลาในการผ่อนชำระ / วงเงินที่สามารถกู้ได้
15 ปี       /647,000 บาท
20 ปี       /744,000 บาท
25 ปี       /811,000 บาท
30 ปี       /858,000 บาท
35 ปี       /889,000 บาท
โดยคิดจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5

        อ่านและคำนวณดูแล้วเป็นยังไงบ้างคะ สำหรับวิธีการคำนวนหาจำนวนเงินที่เราจะมีกำลังในการกู้ซื้อคอนโด การที่เราจะเลือกซื้อคอนหลายคนอาจคิดว่าจำเป็นต้องใช้เงินมาก แต่ที่จริงไม่ใช่เลยใช่ไหมคะ สำหรับข้อมูลบางส่วนอาจเป็นการคำนวนตัวอย่างเป็นแนวทางในการตัดสินใจ ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ยังไงก็ลองศึกษาคิดไตร่ตรองดูให้รอบคอบก่อนซื้อ  หาข้อมูลที่สำคัญที่เราต้องคำนึงมากที่สุด คือ ความจำเป็น และ กำลังเงิน ว่าเราจำเป็นมากน้อยแค่ไหนไม่งั้นอาจจะพลาดเสียเงินไปโดยป่าวประโยชน์นะค่ะ



ที่มา Krungsri Guru






วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

7 วิธีเลือกซื้อคอนโดสำหรับลงทุนเก็งกำไร เพื่อผลตอบแทนดี




        สำหรับผู้ที่กำลังคิดมองหา หรือคิดจะลงทุนซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำเล"  คือหัวใจของการลงทุนด้วยการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าเลยก็ว่าได้  เพราะเราสามารถให้ความเชื่อมั่นว่าจะสามารถปล่อยเช่าได้ง่าย และได้ผลตอบแทนที่ดี ขอเพียงรู้จักการวางแผน และเลือกคอนโดอย่างละเอียด   การลงทุนกับคอนโดมีโอกาสได้ผลตอบแทนมาก ซึ่งเราสามารถปล่อยเช่าได้ พอผ่อนหมดสามารถขายเอากำไรได้อีกด้วย ในปัจจุบันมีผู้ลงทุนกับคอนโดเป็นจำนวนมาก สังเกตจากผู้ประกอบการโครงการเปิดใหม่มันจะขายหมดในเวลารวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบัน การลงทุนในคอนโดมิเนียมถือว่าคุ้มมาก วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีลงทุนอย่างไรกับคอนโดให้ได้ผลตอบแทนที่ดี หรือได้กำไรล้วนๆนั่นเอง



วิธีเลือกซื้อคอนโดสำหรับลงทุนเก็งกำไร  ให้ได้ผลตอบแทนดี
       1. ทำเลคอนโด   สำคัญมาก เพราะ ถ้าทำเลไม่ดี ขายยาก ปล่อยเช่ายาก ราคาก็ไม่ขยับ แต่ถ้าคอนโดทำเลดี ราคามักจะสูง ปล่อยเช่าก็ง่ายมีคนเช่าตลอด

      2. มองการไกล หรือมองระยะยาวว่าคอนโดเกิดใหม่ ผู้ที่ต้องการซื้อคอนโด และผู้เช่า เยอะแค่ไหน ต้องดูแนวโน้มของเมืองว่าจะเจริญขึ้นแค่ไหนนั่นเอง

      3. ชื่อเสียงของโครงการ  และน่าเชื่อถือ ว่ามีประสบการณ์ในเรื่องการสร้างคอนโดมิเนียม เป็นโครงการที่สภาพแวดล้อมดี ชุมชนหรือสังคมที่ดี ซึ่งทำให้ในอนาคตก็จะปล่อยขายง่าย ถ้าเราไม่เลือกโครงการดีๆแล้ว หากผ่อนกับโครงการไปได้ระยะหนึ่งแล้ว เกิดโครงการเจ๊ง สร้างไม่เสร็จขึ้นมา จะเกิดปัญหาได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงตามมา

      4. เลือกซื้อคอนโด และผ่อนกับโครงการ ตัวอย่างผ่อนเดือนละ 15,000 หมื่น 5 ปีเท่ากับ 900,000 แสนบาท ค่าจอง 100,000 แสน รวม 1 ล้าน ก็ได้กำไรมากพอตัวแล้ว

     5. ระหว่างนั้นก็ให้นิติบุคคลช่วยปล่อยเช่า เช่นปล่อยเช่าได้ เดือนละ 17,000 บาท ทำให้มีเงินสำหรับผ่อนกับโครงการ และได้กำไรไปในตัวอีกด้วย

     6. เมื่อเราผ่อนยังไม่เสร็จ เราสามารถขายดาวน์ เอากำไรที่เราผ่อนมาแล้ว+กำไร และให้ผู้ซื้อมาผ่อนต่อได้ สมมุติ ผ่อนมาแล้ว 2 ปี 360,000 บาท + เงินดาวน์ 100,000 รวม 460,000 ทาท สามารถขายเอาดาวน์เอากำไร 600,000 บาท ทำให้ได้กำไรจากการขายดาวน์ และกำไรที่ได้จากการปล่อยเช่าได้เลย

     7. เมื่อผ่อนเสร็จ ราคาก็ค่อยๆ ขยับขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับทำเลดีหรือไม่ สามารถขายเอากำไรได้ คอนโดในย่านเศรษฐกิจ ทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้าราคาขึ้นตลอดเพราะหาที่สร้างไม่ได้แล้ว ทีก็ราคาแพง ราคาขึ้นทุกปี เช่น ซื้อมา 2 ล้าน ซื้อไว้ 5-6 ปี ราคาสามารถปรับขึ้นจนถึง 3 ล้านก็ได้


        เป็นไงบ้างค่ะ สำหรับแนวโน้วการลงทุนคอนโดถือว่ายังไปได้สวย เพราะอนาคตผู้คนจะใช้ชีวิตอยู่ใจกลางเมือง หรอชานเมือง มากขึ้น  ย่อมต้องการความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง สะดวกเวลาไปทำงาน  ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง และสิงอำนวยความสะดวก ซึ่งทำให้คอนโดในเมืองจะได้รับความนิยมค่อนข้างมากขึ้นเลยก็ว่าได้  แนะนำให้เลือกลงทุนคอนโด ใจกลางเมือง พื้นที่เศรฐกิจ เพราะเวลาผ่านไปจะมีมูลค่าเพิ่มของทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองจ้า



วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

7 หลักการของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ดี

   
           การเป็นจะนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์  ถือเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากเป็น  อยากจะมี คอนโด สำหรับให้เช่าไว้ซักห้อง อยากมี ที่ดินไว้เพื่อเก็งกำไร  อยากมีบ้านปล่อยเช่าซักหลัง  ไม่ได้หมายความว่าใครๆก็จะเป็นได้ง่ายเลย  เพราะต้องมีการเงินที่มั่นคง และที่สำคัญคือต้องเป็นคนรู้จักวางแผน นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนให้น้อยที่สุด  แต่อย่าลืมด้วยนะ ว่าการลงทุนในอสังหาฯเป็นการลงทุนที่ใช้เงินเป็นจำนวนมาก หลักล้านขึ้นไป ดังนั้นหากไม่คิดให้ดีหรือลงทุนด้วยความรอบคอบ อาจจะเสียมากกว่าได้  วันนี้เราก็มาดูกันว่าตัวคุณเองมีนิสัยเหล่านี้อยู่หรือไม่



       1. ชอบวางแผน นักลงทุนที่ดีต้องรู้จักวางแผนทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว   เพราะการลงทุนในอสังหาฯ มีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง สามารถเกิดผลกระทบได้ง่ายจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจในประเทศ, การเมือง, นโยบายจากภาครัฐและเอกชน ล้วนมีผลต่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น ดังนั้นปัจจัยภายนอกเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการวางแผนเพื่อรับมือเมื่อเกิดเหตุเหล่านี้ขึ้นได้ทันท้วงที

      2.  สำรวจตลาด  การออกไปสำรวจตลาดและคู่แข่งก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กันเลยก็ว่าได้ เพราะหากเรารู้ความเคลื่อนไหวของตลาดและคู่แข่ง ก็จะทำให้เราปรับตัวได้ทัน  เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องอิงกับตลาดอยู่ตลอดเวลา  และการสำรวจตลาดนี้เองที่จะทำให้เรารู้ว่าตอนนี้ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง ช่วงใดควรปล่อยขาย หรือช่วงใดควรปล่อยเช่าในราคาเท่าใดนั่นเอง

ที่มาภาพ moneyhub


      3. เรียนรู้อยู่เสมอ เพราะการเรียนรู้ไม่มีจุดสิ้นสุดแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนที่เก่งและประสบความสำเร็จมากแค่ไหน จงอย่าหยุดที่จะเรียนรู้และหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องกฎหมาย แนวโน้มเศรษฐกิจ ที่จะช่วยให้เรารู้จักเอามาปรับใช้ในธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

      4. เรียนรู้ความเสี่ยง  การลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยงเสมอ  ด้านอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกัน  มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดับต้นๆในการทำธุรกิจ  เพราะคนส่วนใหญ่มักมองแต่ด้านดีในการทำธุรกิจ วาดภาพที่สวยหรูว่าจะได้ผลตอบแทนตามที่ใจต้องการ บางคนจึงมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวและคงไม่เกิดขึ้นกับเรา และทุกคนที่คิดแบบนี้ก็มักจะจบไม่ค่อยสวยนัก  คุณต้องศึกษาและเข้าใจกับความเสี่ยงที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นและหาวิธีรับมือกับมันได้ทัน

      5. รู้จักสร้าง connection  เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทุกแขนงอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นก่อสร้าง, กฎหมาย, การตลาด, การวิจัย ฯลฯ การรู้จักกับคนในอาชีพเหล่านี้จะเป็นผลดีกับตัวเราเองเมื่อต้องการความช่วยเหลือ อีกทั้งความสามารถในบางด้านก็มักจะต้องการผู้ที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะเท่านั้น

       6. อย่าคิดถึงเรื่องเงินที่จะลงทุน  ถ้าคุณเอาแต่หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องเงิน ว่ายังไม่มีเงินพอที่จะนำไปลงทุน คุณก็จะติดอยู่แต่เรื่องนั้น จนไม่ได้ทำอะไร จริงๆ แล้ว ทุนมี 2 แบบ คือ ทุนที่จับต้องได้ เช่น เงิน ทอง ทรัพย์สินต่างๆ  กับทุนอีกประเภทนึง คือ ทุนที่จับต้องไม่ได้ นั่นก็คือ ความรู้ ความสามารถ คอนเน็คชั่น ทัศนคติ ฯลฯ  ทุนประเภทนี้เราสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และที่สำคัญมันจะนำพาให้คุณได้เจอกับทุนที่จับต้องได้เอง ดังนั้นถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองมีเงินทุนน้อย อย่าเพิ่มไปคิดเรื่องนั้น ให้โฟกัสเพิ่มศักยภาพของทุนที่จับต้องไม่ได้ของคุณแทนจะดีกว่า

       7. มีความซื่อสัตย์ บางคนเมื่อมีข้อมูลและความรู้ที่เหนือกว่าคนอื่น ก็มักจะเอาเปรียบและหาประโยชน์จากคนที่ไม่มีข้อมูล อย่าลืมนะว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่หาข้อมูลค่อนข้างยากและซับซ้อนกว่าสินค้าอื่นๆ ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของนักลงทุนทุกคนที่ควรมีคุณธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค  แต่ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ควรมีติดตัวกับนักลงทุนทุกคน ไม่ใช่แค่เพียงนักลงทุนอสังหาฯอย่างเดียว


         เห็นไหมละคะ ว่าใครๆ ก็สามารถเป็นนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ทั้งนั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย เพราะการเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบตัว ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยาก ที่เราคิดว่าเราเรียนรู้ไม่ได้ เกิดจากการที่เรามองไม่เห็นโอกาส และไม่ได้ใส่ใจมันมากพอก็เท่านั้นเอง


วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ตระกูล-องค์กร ที่ถือครองที่ดินรายใหญ่ของประเทศไทย



        ในกรณีกฎหมายเก็บภาษีที่ดินขณะนี้  หลายๆคนคงต้องอยากทราบใช่ไหมว่า ในประเทศไทยนั้นใครถือครองที่ดินมากน้อยขนาดไหน   มีผลการศึกษาของกลุ่มปติบัติงานท้องถิ่นรัฐไร้พรมแดน     เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่วิจัยและเก็บข้อมูลการถือครองเอกสารสิทธิจากสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมที่ดินได้ผลสำรวจออกมาว่า  กลุ่มทุนที่ถือครองที่ดินมากที่สุด คือ ตระกูลสิริวัฒนภักดี 630,000 ไร่ ขณะทีกลุ่มนักการเมืองที่ถือครองที่ดินมากที่สุด คือ นายอำนาจ คลังผา อดีต ส.ส.เพื่อไทย ถือครอง 2,030 ไร่ ไปดูกันว่าข้อมูลจากการสำรวจศึกษาได้ยกตัวอย่างผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศนั้นมีตระกูลและองค์กร ไหนกันบ้าง




ข้อมูลจากการสำรวจศึกษาได้ยกตัวอย่างผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศดังต่อไปนี้

      อันดับ 1 คือ ตระกูลสิริวัฒนภักดี ถือครองกว่า 630,000 ไร่ ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัท ต่างๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์อยู่ในบริเวณอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รวมประมาณ 12,000 ไร่ ที่ดินใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 15,000 ไร่

      อันดับ 2 คือ ตระกูลเจียรวนนท์ ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจร ในนามกลุ่ม ซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ ธุรกิจโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 200,000 ไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 10,000 ไร่

      อันดับ 3 คือ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดินกว่า 44,400 ไร่

     อันดับ 4 คือ สำนักงานทรัพย์สินฯ จำนวน 30,000 ไร่

     อันดับ 5 คือ บมจ.ไออาร์พีซี จำนวน 17,000 ไร่ อันดับ 6 คือ ตระกูลมาลีนนท์ จำนวน 10,000 ไร่

     อันดับ 7 คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน จำนวน 10,000 ไร่

     อันดับ 8 คือ วิชัย พูลวรลักษณ์ จำนวน 7,000 ไร่

     อันดับ 9 คือ ตระกูลเตชะณรงค์ จำนวน 5,000 ไร่ อันดับ 10 คือ ตระกูลจุฬางกูร จำนวน 5,000 ไร่ ส่วนในกลุ่มนักการเมือง


ที่มาภาพ terrabkk


ผลการศึกษา พบว่าผู้ที่ถือครองที่ดินรายใหญ่ของประเทศ ดังนี้

        อันดับ 1 คือ นายอำนาจ คลังผา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถือครอง 2,030 ไร่
        อันดับ 2 คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตร 2,000 ไร่
        อันดับ 3 คือ นายเสนาะ และนางอุไรวรรณ เทียนทอง 1,900 ไร่
        อันดับ 4 คือ นายอนุชา บูรพชัยศรี 1,284 ไร่
        อันดับ 5 คือ นายอดิศักดิ์ โภคสกุลนานนท์ 1,197 ไร่
        อันดับ 6 คือ นายทศพร เทพบุตร ถือครองที่ดิน 1,095 ไร่
        อันดับ 7 คือ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี 1,095 ไร่
        อันดับ 8 คือ นายสุชน ชามพูนท 1,060 ไร่
        อันดับ 9 คือ นายชัย ชิดชอบ และภรรยา 854 ไร่
        อันดับ 10 คือ นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ 755 ไร่ ขณะที่ผู้ที่ถือครองที่ดินเกินกว่า 1,000 ไร่ขึ้นไป มีจำนวนรวม 837 ราย

       จากข้อมูลที่สรุปมาทั้งหมดนี้หวังว่าจะพอทำให้เข้าใจคร่าวๆกันแล้ว ว่าผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศนั้นมีตระกูลและองค์กรนะคะ



DIY ไอเดียตกแต่งคอนโดห้องสตูดิโอ สไตล์โมเดิร์นสำหรับวัยรุ่นและวัยทำงาน



 
        สำหรับคนหลายๆ ที่พักอาศัยอยู่ใน คอนโดมิเนียม หรือ อพาร์ทเม้นท์ห้ องสตูดิโอ อาจคิดว่าห้องของตัวเองตกแต่งได้ยากเพราะมีพื้นที่ใช้สอยน้อย  วันนี้ทางเราจะมาแนะนำเอาไอเดียการตกแต่งห้องคอนโดขนาดเล็กๆ พื้นที่น้อยมาฝากกันค่ะ  สวยสไตล์โมเดิร์น เหมาะสำหรับวัยรุ่น นักศึกษา ตลอดจนวัยทำงานอีกด้วยจ้า


 
       เพื่อเพิ่มความอบอุ่นของห้องให้น่าอยู่ขึ้นมากขึ้นควรปูพื้นทั้งห้องด้วยไม้ลามิเนตสีโทนกลาง ผนังและเพดานทาสีขาวสะอาด  สายไฟฟ้าบนเพดานนั้นเดินผ่านท่อเหล็กเปลือยอย่างมีสไตล์   ใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นเพื่อให้ห้องดูทันสมัยมากขึ้น 



      สำหรับจัดเตียงควรเอาไว้มุมในสุดของห้อง  เพื่อจะได้รับแสงสว่างจากหน้าต่างได้นั่นเอง ตื่นมาจะได้รับบรรยากาศและวิวสวยๆ ด้านในควรแบ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและห้องครัวเพื่อความสะดวกสบายในการประกอบอาหาร ทำความสะอาดง่ายด้วย  โต๊ะตัวนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือ หรือใช้งานอเนกประสงค์อื่น ๆ ได้อีกด้วย   ภายในห้องติดตั้งรูปภาพและหิ้งวางของไว้เป็นจุด ๆ เพื่อความสวยงาม

       ทางเดินเข้าห้องน้ำถูกจัดเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิ๊วอิน  ห้องน้ำนั้นจะอยู่ส่วนด้านหน้าห้อง  จัดพื้นที่ตามยาวให้ส่วนเปียกอยู่ด้านในสุด ตกแต่งด้วยสีโทนครีมเทา สวยไม่เชย และคงอยู่ได้นานโดยไม่ต้องเปลี่ยนการตกแต่งบ่อย ๆ
      เป็นไงบ้างค่ะ สำหรับไอเดียตกแต่งคอนโดที่ทางเรานำมาฝากวันนี้ สำหรับใครที่ยังคิดไอเดียตกแต่งคอนโดไม่ได้เอาวิธีนี้ไปใช้ได้นะคะ สวยไปอีกแบบ เรียบง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย และน่าอยู่สุดๆไปเลยจ้า 
  








 

 
 
 
 
 

ที่มาภาพ : ivonnesemprunl
 

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง


เตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง



       
        
       เมื่อคุณอยากจะเป็นเจ้าของคอนโดสักห้องก็ไม่ใช่ข้อเสียหายเลยสักนิด  ปัจจุบันนี้ใครก็พากันเลือกซื้อคอนโดกันเป็นว่าเล่น เพราะบรรดาคอนโดทั้งหลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่น่าหยิบจับมาไว้ในมือ ทั้งหรูหราน่าอยู่แถมบรรดาโครงการคอนโดต่างๆ มักจะตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ทำเลดี  มีสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ครบครันอีกด้วย  เป็นเหตุผลให้ผู้คนพากันจับจองเป็นเจ้าของคอนโดกันอย่างมากมาย แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าไปเป็นเจ้าของคอนโดที่เราต้องการนั้น เราต้องเรียนรู้ข้อมูลอะไรบ้างลองมาศึกษากัน

1. ชื่อเสียงของโครงการ
        ถือเป็นข้อมูลลำดับแรกๆ เลยก็ว่าได้ที่เราต้องให้ความสำคัญ สำหรับข้อมูลของผู้ประกอบการคอนโดนั่นเอง อย่างเช่น พวกชื่อเสียง ประสบการณ์ความชำนาญในการทำโครงการคอนโดมีมานานเท่าไหร่ และมีคนวามน่าเชื่อถือมากแค่ไหน โดยอาจจะไปสอบถาม หรือค้นหาข้อมูลเหล่านี้จากผู้ที่ซื้อโครงการคอนโดที่ขายหมดแลว หรือคนจากรู้จักก็ได้ว่าเป็นอย่างไรบ้างเพื่อเก็บข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจนั่นเอง




2. การถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
        เมื่อทำการตกลงซื้อขายกันแล้วว่าการถือครองกรรมสิทธิ์มีข้อตกลงอย่างไรบ้าง อะไรเป็นทรัพย์ส่วนบุคคล  และอะไรบ้างที่เป็นทรัพย์ส่วนกลาง  จะได้ทราบรายละเอียดให้ชัดเจนว่าเรามีสิทธิ์ส่วนบุคคลกับทรัพย์สินอะไรบ้าง  มีอะไรบ้างที่เป็นเจ้าของร่วมที่ต้องใช้ประโยชน์ร่วมกัน  เพราะบางทรัพย์สินที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันนั้นต้องมีการดูแลบำรุงรักษาจากค่าส่วนกลางที่เจ้าของห้องชุดแต่ละรายจ่ายร่วมกันอีกด้วย

3. เอกสารสัญญาต่างๆ
      ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของพวกเอกสารสัญญาต่างๆ ของการซื้อขายคอนโด ดูว่ามีความเรียบร้อยหรือไม่ ไม่ขาดหรือบกพร่องเรื่องเอกสารใดๆ  มีการซื้อขายคอนโดกันแบบตรงไปตรงมา หรือทำกำไรจนมากเกินไป มีการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างคอนโดตรงกับที่ระบุในเอกสารหรือไม่ มีระยะเวลาการรับประกันความเสียหายจากจุดบกพร่องของทรัพย์สินที่เราจะซื้อขายกันมากน้อยแค่ไหนเหล่านี้

4 . ทำเลที่ตั้ง และสถานที่ใกล้เคียงโดยรอบ
     โครงการคอนโดที่มีทำเลดีก็ถือว่ามีความสำคัญมาก ยิ่งใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก การคมนาคมสะดวกสบาย เช่น เน้นติดถนนใหญ่ การคมนาคมสะดวก   ติดรถไฟฟ้า สถานที่ท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยยิ่งดี เนื่องจากผู้เช่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังเช่าสูง และที่สำคัญเป็นกลุ่มที่มีความแน่นอนนั่นเอง
     นอกจากนี้แล้ว ถ้ามีงบประมาณ เลือกห้องที่มีวิวสวยเป็นธรรมชาติ เช่น วิวทะเล แม่น้ำ ภูเขา แต่ถ้าจะลงให้เช่า ควรซื้อห้องสวย หรู ทำเลดี โครงการดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน  จะได้กำไรดี โดยเฉพาะชาวต่างชาติสามารถปล่อยให้เช่าในราคาที่สูงอีกด้วย ดูวิวทิวทัศน์ มีตึกรอบข้าง


5 . ค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากค่าคอนโด
       ควรศึกษารายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้นอกเหนือจากราคาของคอนโด ว่ามีมากน้อยแค่ไหน มีส่วนไหนที่เกินความจำเป็นหรือหน้าที่รับผิดชอบของผู้ซื้อหรือไม่ การที่เราจำเป็นต้องทราบรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่เราจะซื้อคอนโดนั้นเป็นการตรวจสอบความถูกต้องและให้เราได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนตกลงซื้อคอนโด และอาจเป็นการป้องกันการถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการโครงการคอนโดอีกด้วย
      
       การศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดที่เราได้แนะนำมาทั้งหมดนี้  สามารถช่วยเป็นแนวทางให้เรานำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบให้การเลือกซื้อคอนโดของเรานั้นไม่ผิดพลาดและง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย  สำหรับการที่เราจะเลือกซื้อคอนโดสักห้องเรานั้นต้องใช้เงินไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้น เราต้องตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบก่อนที่จะซื้อคอนโดไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือยุ่งยากมากเรื่อง  จะดีกว่าการรีบตัดสินใจไม่ละเอียดรอบคอบแล้วมาเสียใจเสียดายเงินที่หลังได้