วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

ข้อดีของการซื้อคอนโดแบบผ่อนดาวน์กับโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ

ข้อดีของการซื้อคอนโดแบบผ่อนดาวน์กับโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ




1 . ซื้อคอนโดแบบผ่อนดาวน์ถูกกกว่าซื้อคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว

      ราคาตอนแรกเริ่มเปิดโครงการย่อมเป็นราคาที่ถูกที่สุดของคอนโดโครงการนั้นโดยปกติ เพราะโดยทั่วไปแล้วการตั้งราคาคอนโดส่วนใหญ่จะมีการขึ้นราคาเมื่อทำการก่อสร้างเสร็จแล้วพร้อมเข้าอยู่ และจะขึ้นราคาไปตามความต้องการ และราคาพื้นที่แบบปีต่อปีอะไรก็ว่ากันไป ดังนั้นราคาเมื่อเปิดโครงการจึงเป็นราคาที่ถูกที่สุดนั่นเอง

2. เงินดาวน์ของโครงการคอนโดที่สร้างไม่เสร็จ จะเปลี่ยนมาเป็นค่าคอนโดหลังสร้างเสร็จ 

     เงินดาวน์เหล่านี้ไม่ใช่เงินกู้ซื้อโครงการ ดังนั้นจึงไม่มีการคิดดอกเบี้ย ก้อนเงินที่คุณจ่ายไปในแต่ละงวดจึงไปตัดค่าคอนโดแบบเต็ม ๆ โดยไม่หักไปในส่วนอื่น เมื่อคุณยื่นกู้กับธนาคารจริง ๆ ราคาของห้องก็ลดลงไปมากแล้ว ทำให้คุณเสียดอกเบี้ยลดลง ประหยัดค่าใช้จ่ายเข้าไปอีก


3. ตกลงต่อรองได้ง่ายขึ้น

     โครงการที่ยังไม่เสร็จในบางที่สามารถต่อรองเรื่องเฟอร์นิเจอร์กับทางโครงการได้ หรือสามารถเลือกว่าจะเอาเฟอร์นิเจอร์ของทางโครงการหรือไม่เอาได้ รวมไปถึงโปรโมชั่นอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะช่วงใกล้โอน หรือตอนที่ถึงกำหนดเวลาสร้างเสร็จ แต่คอนโดยังสร้างไม่แล้วเสร็จ เราก็สามารถต่อรอง หรือเรียกร้องค่าเสียหายได้เช่นกันค่ะ




4. โอกาศเลือกห้อง เลือกวิว ก่อน

       ตามกฏของการมาก่อนได้ก่อนนั่นเอง ยิ่งถ้าคุณเข้ามาจองห้องในวันที่เปิดโครงการเลย คุณก็จะมีโอกาสได้ห้องดี หรือได้ห้องราคาพิเศษ ซึ่งถ้าคุณช้า ไปรอซื้อเมื่อโครงการเสร็จแล้ว อาจจะเหลือห้องที่ไม่ค่อยน่าสนใจเอาไว้ก็ได้




วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

สิ่งที่ต้องจัดการในบ้านช่วงหน้าร้อนนี้


   


       หลายๆ ครั้งที่สิ่งของและอุปกรณ์ในบ้านของเราต้องมาเสียหรือชำรุด ในช่วงเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงหน้าร้อน หรือหน้าฝนนี้  และ มีสิ่งต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่คุณควรจะเร่งจัดการดูแลหรือซ่อมบำรุง เมื่อหน้าร้อนเริ่มย่างกรายเข้ามา จะได้ไม่มีปัญหาให้หงุดหงิด และผ่านหน้าร้อนนี้ไปได้อย่างสบาย ๆ จ้า



1.เครื่องปรับอากาศ   ถือเป็นความสำคัญอันดับแรก ๆ ของเราในช่วงหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ ดังนั้น เราจึงควรใส่ใจกับมันเสียแต่เนิ่น ๆ ลองเปิดเครื่องขึ้นมาใช้งาน ตรวจสอบดูว่า การทำงานยังเป็นปกติดีหรือไม่ มีอะไรชำรุดเสียหรือไม่ หากพบความผิดปกติ ก็ให้รีบจัดการ หรือหากเครื่องยังทำงานได้ดี ก็ให้ทำความสะอาด หรือเรียกผู้เชี่ยวชาญมาล้าง เพื่อจะได้พร้อมใช้งานในช่วงฤดูกาลนี้

2.หลังคาบ้าน  ปกติแล้ว การตรวจเช็คหลังคาบ้านนั้น เราควรทำปีละครั้ง หากพบปัญหา จะได้ซ่อมแซมแก้ไข และช่วงฤดูร้อนนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะ ทำให้เราสามารถตรวจสอบปัญหาจุดรั่วซึม ต่าง ๆ ได้ และให้รีบซ่อมแซม

3.ทำความสะอาดรางน้ำ : การทำความสะอาดรางน้ำนี้ ก็เพื่อป้องกันการอุดตัน

4.เช็คบานหน้าต่าง : แน่นอนว่า หน้าร้อนนั้น ความร้อนจากภายนอก จะมากกว่าในบ้านของเรา ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจเช็ค และซ่อมแซมหน้าต่าง ดูว่ามีจุดแตกหักเสียหายชำรุดบ้างหรือไม่ หากพบว่าต้องซ่อมแซมก็ควรต้องรีบดำเนินการ การดูแลซ่อมแซมหน้าต่างนี้ จะทำให้บ้านดูดีขึ้นมาอีกมากด้วย อาจจะเป็นแค่การทำความสะอาด การทาสี ก็ได้

5.ทำความสะอาดภายนอกบ้าน : การล้าง ทำความสะอาดภายนอกบ้านบ้าง จะช่วยกำจัดฝุ่น คราบสกปรก เชื้อรา ให้หลุดออกไป ทั้งตามพื้น ทางเข้าบ้าน ผนังบ้าน ซึ่งในการล้างทำความสะอาดภายนอกนั้น การใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็ช่วยให้เบาแรงลงได้มากทีเดียว

6.สระว่ายน้ำก็ต้องดูแล : ในช่วงฤดูร้อนนี้ สระว่ายน้ำก็เป็นสิ่งที่สมาชิกครอบครัวจะมาใช้งานกันมาก ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน ก็ต้องดูแล ตรวจเช็คความสะอาดและความปลอดภัยให้ดีเสียก่อน ทั้งพื้น กระเบื้อง เครื่องกรอง เครื่องปั้มน้ำ รวมทั้งตรวจเช็คสภาพเคมีในสระน้ำให้มีความสมดุลด้วย




วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

ค่าใช้จ่ายและเอกสาร ที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม

      
     


      ปัจจุบัน  "คอนโดมิเนียม"  เป็นอสังหาริมทรัพย์ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ซึ่งคอนโดฯ ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล แม้กระทั่งในต่างหวัด ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า ถนนสายหลัก ส่วนในต่างจังหวัดจะเป็นหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญๆ ของไทย อาทิเช่น  เชียงราย ลำปาง อุดรธานี ขอนแก่น บุรีรัมย์  พิษณุโลก นครศรีธรรมราช  เป็นต้น




      ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ทั้งซื้อไว้เพื่ออยู่ เพื่อลงทุนปล่อยเช่า หรือขายต่อ ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังวางแผนจะซื้อคอนโดฯ สักห้อง ควรเตรียมตัวเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ

1.เงินจอง:  จำนวนเงินจองเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับราคาคอนโดฯ และเงื่อนไขที่โครงการกำหนด โดยส่วนใหญ่เงินจองจะประมาณหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น 

2.เงินทำสัญญา:  หลังจากได้ทำการจองไปแล้ว ภายใน 7-14 วันทางเจ้าของโครงการจะกำหนดวันทำ "สัญญาจะซื้อจะขาย" ซึ่งเงินทำสัญญาปกติจะก้อนใหญ่กว่าเงินจอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาคอนโดฯ เช่นกัน มีทั้งหลักหมื่นและหลักแสน

3.เงินดาวน์ : (แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ) เนื่องจากแบงก์ชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดฯ ได้ในสัดส่วน LTV ( Loan to Value Ratio) ไม่เกิน 90% ของมูลค่าหลักประกัน ซึ่งก็คือตัวคอนโด ดังนั้นผู้ซื้อจะต้องดาวน์ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 10% ของราคาซื้อขาย (รวมเงินจองและเงินทำสัญญา)

4.ค่าประเมินราคาห้องชุด :  โดยจ่ายในวันที่ไปทำเรื่องยื่นกู้ให้กับธนาคารที่เรายื่นกู้ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท ต่อการประเมินหนึ่งครั้ง ยิ่งยื่นกู้หลายธนาคารก็ต้องจ่ายมาก ค่าประเมินที่ได้จ่ายไปแล้ว ถ้ากรณีที่กู้ไม่ผ่านหรือไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ก็ไม่มีการคืนเงิน

5.ค่าจดทะเบียนจำนอง:  จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ อัตราปกติคิด 1% ของมูลค่าที่จดจำนอง โดยต้องชำระให้สำนักงานที่ดิน เหตุผลที่ต้องเสียค่าจดทะเบียนจำนองเพื่อเอาคอนโดฯ เป็นประกันหนี้ให้กับธนาคาร

6.ค่าธรรมเนียมการโอน : จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์เช่นกัน อัตราปกติคิด 2% ของราคาประเมินกรมที่ดิน ซึ่งทางกฏหมายกำหนดให้ต้องจดทะเบียนกับสำนักงานที่ดิน มิฉะนั้นจะเป็นโมฆะ โดยส่วนใหญ่ผู้ซื้อและผู้ขายจะออกกันคนละ 50% หรือแล้วแต่ตกลง

7.เงินกองทุนสำรองส่วนกลาง : เป็นเงินกองกลางที่นิติบุคคลอาคารชุดจะเรียกเก็บไว้เป็น "กองทุนสำรอง" เพื่อใช้ในการบริหารจัดการโครงการในระยะยาว โดยคิดตามขนาดพื้นที่ห้องชุดตามระดับราคาห้องชุด เช่น ห้องชุดมีพื้นที่ส่วนกลาง หรือสิ่งอำนวยความสะดวกมาก อัตราเงินกองทุน จึงย่อมสูงตามลำดับ

8.ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย: (จ่ายเป็นปี หรือแล้วแต่กำหนด) ถ้ากู้เงินมาจากธนาคาร โดยปกติธนาคารจะกำหนดให้ต้องทำประกันอัคคีภัยห้องชุดด้วย โดยผู้ซื้อต้องรับภาระในการชำระเบี้ยประกัน และธนาคารจะเป็นผู้รับผลประโยชน์ หากเกิดอัคคีภัยบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินไปที่ธนาคารในฐานะผู้รับผลประโยชน์ เพื่อเอาเงินนี้ไปตัดหนี้กับเงินกู้ ซึ่งปกติมักจ่ายพร้อมกับเงินผ่อนชำระงวดแรก และส่วนใหญ่จะเรียกเก็บ 3 ปีครั้ง อัตราเบี้ยมาตรฐานกรมการประกันภัยกำหนดไว้

9.ค่าประกันมิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า : ปกติโครงการมักออกค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้าให้ก่อน แล้วเรียกเก็บทีหลังตามอัตราที่การประปา-การไฟฟ้ากำหนด โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 2,000-4,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้า และเงื่อนไขของโครงการ

10.ค่าประกันภัยอาคาร: (จ่ายตามโครงการกำหนด) หากนิติบุคคลอาคารชุดของคอนโดฯ มีการทำประกันอัคคีภัยหรือประกันความเสียหายของทรัพย์สิน เจ้าของห้องชุดก็ต้องร่วมจ่ายค่าประกันภัยนี้ด้วย โดยปกติคิดตามสัดส่วนพื้นที่ห้องชุด



เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการซื้อคอนโด
1. นิติกรรมสัญญา
     1.1 หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย
เป็นรายละเอียดหลักฐานเกี่ยวกับการซื้อขายบ้าน หรือห้องชุด ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นราคา รายละเอียดของห้อง เงินมัดจำ เป็นต้น โดยกำหนดว่าจะโอนที่ดิน ภายหลังจากวันที่ทำสัญญา ซึ่งจะต้องเก็บฐานหนังสือดังกล่าวไว้ทั้งสองฝ่าย คนละ 1 ชุด เพื่อนำมาใช้เป็นเอกสารยื่นขอกู้สินเชื่อกับธนาคารต่อไป
    1.2 หนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน (ท.ด. 13)
เอกสารสำคัญนี้ คือ ใบซื้อขายที่ดิน ซึ่งเจ้าของเดิมได้ทำนิติกรรม ณ กรมที่ดิน ไว้แล้ว โดยกรณีซื้อขายบ้านมือสอง จำเป็นต้องได้รับหนังสือดังกล่าว เนื่องจากธนาคารจะขอสำเนาพร้อมกับสัญญาจะซื้อจะขาย ในวันขอสินเชื่อ

2. สำเนาบัตรประชาชน+ทะเบียนบ้าน ผู้ชื้อ-ขาย
      อีกถึงหลักฐานสำคัญ สำหรับผู้ที่ซื้อขายบ้านหรือห้องชุดมือสอง เพราะหากเกิดปัญหาผิดพลาดทางเทคนิค สามารถเรียกร้องตามกฎหมายได้

3. สำเนาโฉนดบ้านหรือห้องชุด
เป็นสิ่งที่ต้องได้รับ ในวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย เพื่อเป็นการยืนยันถึงการครอบครองกรรมสิทธิ์บ้านหรือห้องชุดนั้น โดยภายในสำเนาโฉนด จะต้องบอกรายละเอียดขนาดพื้นที่ของบ้านหรือห้องชุดนั้นด้วย

4. เอกสารหลักฐานรายละเอียดการโอน
ถือว่าเป็นเอกสารยืนยันว่าได้รับการครอบครองบ้านหรือห้องชุดนั้นแล้ว และเป็นอีกหนึ่งหลักฐานชิ้นสำคัญที่ควรเก็บไว้

5. ส่วนของสิทธิและนิติกรรม (ท.ด. 1)
หนังสือฉบับนี้ จะบอกรายละเอียดของโฉนดที่ดิน และตำแหน่งที่ดิน ที่มีสิทธิและนิติกรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

6. บันทึกการประเมินราคาประเมินราคาทรัพย์สิน (ท.ด.86) เป็นรายละเอียดบันทึกการประเมินราคาทรัพย์สินของห้องชุดและบ้าน

7. บันทึกถ้อยคำการชำระภาษีอากร (ท.ด.16)
เป็นสิ่งที่แสดงหลักฐานว่าผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ นั้นได้เสียภาษีตามที่กรมสรรพากรกำหนดไว้แล้ว

8. ส่วนของหนังสือใบปลอดหนี้ ออกโดยนิติบุคคล (กรณีของการซื้อขายห้องชุด) หนังสืออีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันว่า ทางเจ้าของห้องชุดที่ขายต่อนั้น ไม่มีหนี้ค้างชำระค่าส่วนกลาง หรือเงินกองทุน แต่อย่างใด






วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

ฮวงจุ้ยจัดบ้าน คอนโด ช่วงหน้าร้อนให้อยู่เย็น เป็นสุข





      เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแบบนี้หลายคนอาจรู้สึกว่าบ้านร้อนกว่าปกติ นอกจากเรื่องของทิศทางของลม แดดแล้ว ยังมีเรื่องฮวงจุ้ยอีกเรื่องหนึ่งที่ควรใส่ใจ จะมาแนะนำวิธีจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยหน้าร้อน ดูซิว่าต้องย้าย จัด วางอะไรตรงไหนบ้างค่ะ

     1. พลังของสี : เลือกของตกแต่งภายในบ้านให้อยู่ในโทนสีอ่อนแทนสีเข้มหรือสีโทนร้อน หรือจะใช้หลักการเลือกสีโทนเย็น เช่นสีฟ้า สีเขียว ฯลฯ

    2. พลังของน้ำ : ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการวางน้ำพุคือ ประตูหน้าบ้าน อาจจะเลือกเป็นน้ำพุขนาดเล็กๆ ก็ได้ แต่ต้องสำรวจว่าน้ำพุไหลและทำงานปกติ

    3. พลังของต้นไม้ : วางกระถางต้นไม้สีเขียวไว้ภายในบ้าน เพื่อให้ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ กำจัดสารพิษที่อยู่ภายในบ้าน และทำให้อากาศของบ้านบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น

    4. คริสตัลแบบสีม่วง : เป็นสัญลักษณ์ช่วยระบายความร้อนและอารมณ์ภายในบ้านที่รุนแรง รวมไปถึงช่วยกำจัดพลังงานเชิงลบ


สำหรับ 4 วิธีที่คุณสามารถลองทำดูได้เพื่อบ้านจะได้น่าอยู่ อากาศบริสุทธิ์ และมีพลังบวก มากค่ะ อิอิ


วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วิธีซื้อบ้าน คอนโด มีกี่วิธี มีข้อดีข้อเสียอย่างไร


 
   การที่เราจะทำการตัดสินใจซื้อบ้าน หรือ คอนโด แน่นอนค่ะว่าเราจะต้องมีความรู้และต้องศึกษามาเป็นอย่างดี เพราะการซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ไม่ใช่ที่จะใช้เงินจำนวนน้อย นั่นหมายความว่าเราจะใช้เงินจำนวนมากนั่นเอง ดังนั้นเราต้องมารู้จักกับการลงทุนหรือซื้อสินทรัพยืก่อนว่ามีอะไรบ้าง ข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างค่ะ

1.การซื้อกับเจ้าของโดยตรง

ข้อดี
 วิธีที่ง่ายที่สุดในการซื้อขายบ้าน
สามารถต่อรองได้แบบตัวต่อตัว แต่ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า เหตุที่ตัดสินใจขายนั้นเพราะอะไร หรือขายเพราะเกิดปัญหาจากตัวบ้าน
ข้อเสีย

 ปัญหาเรื่องนิติกรรมสัญญา เพราะต้องดำเนินการเรื่องสัญญาเองทั้งหมด
ต้องตรวจสอบเองให้รอบคอบ หากไม่รอบครอบอาจเกิดปัญหาได้ในอนาคต ดังนั้นควรจะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความสะดวก และความสบายใจของคนซื้อและคนขาย


2. การซื้อผ่านนายหน้า

ข้อดี
     ขายได้เร็วเพราะขายโดผู้เชี่ยวชาญด้านการขายอสังหาฯ เก่งด้านต่อรองราคา การเจรจา การโฆษณา
มีแบบบ้าน หรือทำเล ตามราคาที่มีมาให้เลือกหลากหลายทำเล หลายแบบหลายราคามาประกอบการตัดสินใจ
บ้านที่นายหน้าจัดหามาได้ผ่านการคัดกรองมาแล้วระดับหนึ่ง
มีตัวแทน ดำเนินการแทนทุกอย่าง ไม่ว่าจะพาดูบ้าน เจรจาราคา จัดการเรื่องสัญญา หรือเรื่องเงินกู้

ข้อเสีย
      ต้องเสียค่านายหน้าประมาณ "3%" ของราคาขาย
การทำสัญญาต้องตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง" โดยการขอดู บัตรประชาชน และชื่อหลังโฉนดก่อนจะตกลงปลงใจเซ็นสัญญา



3. สินทรัพย์รอการขายของธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ

ข้อดี
 บ้านที่หลุดจำนอง หรือบ้านจากลูกหนี้บ้านจะราคาถูกกว่าปกติ
 บ้านมีให้เลือกอย่างมากมายแล้ว
 สามารถขอสินเชื่อได้ง่ายๆ และดอกเบี้ยยังต่ำเพราะธนาคารจะให้สินเชื่อเอง บางแห่งยกเว้นค่าธรรมเนียมอีกด้วย

ข้อเสีย
บ้านมักมีสภาพทรุดโทรม
บางทีอาจจะมีลูกบ้านที่ยังมีชื่อติดอยู่ มาขออาศัยอยู่ด้วย ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ไม่มีชื่อใครอยู่ในบ้านแล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาฟ้องขับไล่กันภายหลัง

4. ประมูลจากกรมบังคับคดี
จะต้องเตรียมเงินสดจำนวน 40,000 - 50,000 เพื่อใช้เป็นเงินมัดจำในการประมูลและเมื่อประมูลได้แล้วต้องวางเงินมัดจำ 25% ของราคาทรัพย์ รวมเงินวางประกันในวันนั้น ที่เหลืออีก 75% ชำระภายใน 15 วัน นับแต่วันทำสัญญาซื้อขาย

ข้อดี

ราคาประมูลนั้นต่ำกว่าตลาดประมาณ 50% แต่ควรไปดูสถานที่จริง เพื่อประเมินราคาที่จะพร้อมสู้ไว้ล่วงหน้า จะได้ไม่ถูกกระตุ้นให้ประมูลราคาแพงโดยไม่จำเป็น หรือไม่สมกับราคาบ้าน

ข้อเสีย
กระบวนการหรือขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย
ต้องคอยรอให้เปิดประมูล ไม่สามารถซื้อได้ตลอด
ต้องระวังผู้บุกรุกไม่ยอมออกไป
ปัญหาการฟ้องคัดค้านราคา ลูกหนี้สามารถคัดค้านราคาได้ 1 ครั้ง

     เป็นยังไงบ้างค่ะสำหรับความรู้ที่เราได้นำมาฝากกันวันนี้ หวังว่าจะช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้น ยังไงก็ควรศึกษาให้ดีและปรึกษาที่คนที่มีความรู้เกียวกับอสังหาริมทรัพย์ไว้บ้างค่ะ จะได้ช่วยมากขึ้น จะได้ไม่เสียงกับการสูญเสียทรัพย์สินนะคะ


ซื้อบ้านใหม่ ต้องพิจารณาตรวจสอบอะไรบ้าง




    สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ที่อยู่อาศัยต้องตรวจสอบให้รอบครอบก่อนตัดสินใจจอง หรือเลือกซื้อบ้านเพื่อไม่ให้มีปัญหาภายหลัง และได้บ้านที่ตรงกับความต้องการ การเลือกซื้อบ้านต้องพิจารณามาดูกันคะ



1. ตรวจเช็คความเรียบร้อยของบ้าน เช่น ผนัง พื้น ระบบประปา หลังคาสภาพดีพร้อมใช้งานหรือไม่

2. ตรวจสอบเงื่อนไขรายละเอียดในสัญญา อ่านสัญญาดี หากมีข้อสงสัยให้ถาม อย่าได้กลัวเพราะมันเป็นสิทธิ์ของเรา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฟ้องร้องกันภายหลัง

3. แบบแปลนบ้านได้มาตราฐาน ตรวจสอบแบบแปลนบ้านว่าสภาพแข็งแรง การก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมาย ระบบต่างๆใช้งานได้ไม่ก่อให้เกิดอันตราย โดยใช้ฝ่ายกรมโยธา ช่างวางระบบไฟฟ้าหรือเครื่องกล มาตรวจสอบให้เรียบร้อย

4. ในสัญญามีการรับประกันโครงสร้างต่างของบ้าน ระยะเวลาการรับประกันโครงสร้าง ฐานราก โครงสร้างต่างๆของบ้าน หรือคอนโด

5. วงเงินการปล่อยกู้จากสถาบันการเงิน ว่าเรามีกำลังซ์้อบ้านราคาเท่าไหร่

6. ข้อมูลโครงการความน่าเชื่อถือ ทำเล ราคา สิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทาง สภาพแวดล้อม และประเภทที่อยู่อาศัยที่สนใจ เป็นบ้านที่ตรงกับความต้องการ และเหมาะกับเราอย่างแท้จริง

7. ข้อมูลทางราชการ ที่ดินของรัฐ ก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แนวเวนคืน โครงข่ายสาธารณูปโภค-สาธารณูปการที่มีอยู่ เช่น การก่อสร้างทางด่วน การตัดถนนในอนาคต เป็นต้น

8. ผังเมืองรวม ในอนาคตจะมีการสร้างอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อบ้านในอนาคต ควรหลีกเลี่ยงโครงการที่อยู่ในเขตผังเมืองประเภทพื้นที่อุตสาหกรรม หรือพาณิชยกรรม หรือที่พักอาศัยหนาแน่นมาก เพราะที่ทำให้เกิดมลภาวะ ปัญหาการจราจร ฯลฯ

9. สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น สถานที่ออกกำลังกาย สวนสาธารณะ สระว่ายน่ำ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ฯลฯ เพราะหากมีความจำเป็นต้องใช้บริการ จึงควรตรวจสอบระยะเวลา และความสะดวกในการเดินทาง

10. เส้นทางการเดินทาง สะดวก การคมนาคมดี มีทางออกหลายเส้นทาง ข้อมูลการเดินรถสาธารณะ เส้นทางรถโดยสารสาธารณะ

11. ความต้องการรูปแบบการใช้ชีวิต จำนวนสมาชิก ลักษณะนิสัยของผู้อยู่อาศัยต้องการห้องขนาดเท่าไหร่ มีพื้นที่อะไรบ้าง ขนาดเหมาะสมหรือไม่ เช่น สนามหญ้า สระว่ายน้ำ ที่จอดรถเพียงพอ

12. สภาพแวดล้อมของบ้าน เป็นแหล่งชมชน มีขโมย หรือมลพิษ เสียงดังหรือไม่ เพื่อนบ้านเป็นอย่างไรต้องตรวจสอบดูให้แน่ใจ

เพื่อจะให้ได้บ้านที่หน้าอยู่เราจึงควรศึกษาให้รอบครอบก่อนซื้อบ้าน เพราะบ้านมีราคาแพงจะได้ไม่เสียเงินจอง เงินดาวน์ เสียเวลา เสียความรู้สึก เมื่อเราได้บ้านดีชีวิตเราก็จะมีความสุข เหมือนคนโบราณที่ว่า "บ้านคือวิมานของเรา" อยู่ที่ไหนก็ไม่อุ่นใจเท่าบ้านเรา หากต้องการหาบ้าน ซื้อบ้าน หรือเช่าบ้าน นั่นเองคะ


จุดเด่นของคอนโดมีเนียม ไว้เป็นที่อยู่อาศัยของคนวัยทำงาน


       ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังคิดจะมองหาถึงชีวิตที่เหนือระดับ สะดวก รวดเร็ว และชีวิตที่แปลกใหม่น่าค้นหา อยากหลุดออกจากกรอบของเวลาอันเร่งรีบและความจำเจในแบบเดิมๆที่แสนน่าเบื่อไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจราจรที่แสนจะติดขัดไม่รู้จบ ปัญหาโลกแตกอย่างทรัพยากรที่มีวันหมดไปอย่างน้ำมัน ที่นับวันก็ยิ่งแพง ยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ ตึกระฟ้าอย่างคอนโดมีเนียมก็อาจจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคุณ คอนโดคือความสะดวกสบายของที่พักอาศัยที่คุณสัมผัสได้ในชีวิตทำงานค่ะ คอนโดมีเนียมอาจจะไม่ใช่ที่พักอาศัยที่ดีหรือประเสริฐสมบูรณ์แบบที่สุด แต่คอนโดมีเนียมก็เป็นทางเลือกสำหรับคนวัยทำงานที่ดีที่สุดทางเลือกหนึ่งค่ะ เสนอข้อดีประโยชน์และจุดเด่นของคอนโดมีเนียมเมื่อเทียบกับที่พักอาศัยในรูปแบบอื่นๆกันค่ะ



      การที่เราจะเลือกคอนโดดีๆสักที่ที่สะดวกต่อการเดินทางไปที่ทำงาน นั้นจะช่วยให้คุณไม่ต้องเร่งรีบกับการไปทำงาน หรือไม่ต้องเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตในรถยามเย็นอีกต่อไป ข้อดีที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับการเลือกซื้อคอนโดเป็นที่อยู่อาศัยก็คือความสะดวกสบายในการเดินทางค่ะ เพราะคอนโดส่วนมากนั้นจะต้องแข่งขันกันในแง่ของพื้นที่ที่ตั้งเป็นหลัก คอนโดที่อยู่ใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าบนดินหรือใต้ดินนั้นมักจะได้รับความนิยมกันมากกว่า หรือคอนโดที่อยู่ใกล้กับทางด่วนหรือถนนสายเส้นสำคัญเป็นต้น

        แต่ในปัจจุบันคอนโดมีเนียมเองนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะมีข้อดีแต่เพียงแค่ทำเลที่ตั้งที่จะเอื้อให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกสบายรวดเร็วและประหยัดเท่านั้น คอนโดมีเนียมยังมีจุดเด่นในแง่ของระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบยามรักษาความปลอดภัยที่คอนโดมีเนียมเกือบทั้งหมดมีให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หรือระบบกล้องวงจรปิดต่างๆ ซึ่งคงเป็นไปได้ยากหากจะจ้างยามสักคนเพื่อตรวจตาทรัพย์สินของบ้านพักอาศัยแบบอื่นๆ หรือต่อให้ในโครงการบ้านจัดสรรมียามก็คงไม่อาจตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านทุกๆหลังค่ะ และอีกจุดเด่นสำหรับการเลือกที่พักอาศัยแบบนี้นั้นก็คือ สิ่งอำนวยความสะดวกกับส่วนกลางค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย หรือสวนหย่อมสีเขียว ที่จัดได้ว่ามักจะมีให้ได้ใช้บริการในคอนโดมีเนียมระดับกลางขึ้นไปและข้อดี จุดแด่นที่เราจะลืมไม่ได้เลยในการเลือกซื้อคอนโดก็คือในเรื่องของราคาค่ะ เมื่อเทียบพื้นที่ขนาดเท่าๆกัน คอนโดมีเนียมมักจะมีราคาที่ถูกกว่าบ้านจัดสรรหลายเท่าตัว โดยเฉพาะเมื่อเปรียเทียบในทำเลที่ตั้งที่คล้ายคลึงกัน จะพบว่าคอนโดมีเนียมให้ราคาที่ดีกว่ามากเลยทีเดียวค่ะ


ข้อดีในการซื้อคอนโดที่เปิดขายล่วงหน้า !!



       จะเห็นได้ว่าโครงการคอนโดต่างๆ ที่ยังว่างและเราไม่สามารถค้นหาสิ่งที่ใช่ได่  ดังนั้นเราก็สามารถดูโครงการที่เปิดขายล่วงหน้า แต่ตัวเลือกนี้มีเพียงไม่กี่คนที่ได้เปรียบในการซื้อคอนโด สำหรับปล่อยเช่าเอง ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และเวลาในการลงทุนระยะยาวคุณควรคำนึงถึงประโยชน์การซื้อโครงการที่เปิดขายล่วงหน้านั่นเอง มาดูกันว่าข้อดีข้อหนึ่งของการซื้อคอนโดที่เปิดขายล่วงหน้ามีอะไรบ้าง

1. ได้ราคาที่ถูกและเป็นการประหยัดเงิน
       เพราะข้อดีข้อหนึ่งของการซื้อคอนโดที่เปิดขายล่วงหน้าคือได้ราคาที่ถูกและเป็นการประหยัดเงินเพราะถ้าคอนโดสร้างเสร็จราคาก็จะแพงขึ้นอีก เพราะทางโครงการจะทำการค่อยๆเพิ่มราคาขึ้นเรื่อยๆ ในการซื้อคอนโดที่เปิดขายล่วงหน้าทำให้คุณได้โปรโมชั่นดีๆหลายอย่างหรือบางครั้งคุณอาจซื้อ 2 ยูนิตติดกันแล้วทำเป็นห้องใหญ่ได้อีก ถ้าคุณต้องการซื้อคอนโดจำนวนมากและมีความอดทนจนกว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ก็จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากในการซื้อคอนโดที่เปิดขายล่วงหน้ามากกว่ารอให้โครงการสร้างเสร็จแล้วค่อยซื้อราคาก็จะแพงมากขึ้นไปอีกและแน่นอนว่าคุณจะต้องใช้เงินทุนในการซื้อคอนโดที่เปิดขายล่วงหน้า แต่สวนมากแล้วโครงการเหล่านี้จะมีแผนการชำระเงินที่น่าสนใจ และเมื่อคุณเริ่มปล่อยเช่าคุณก็จะได้เงินที่คุณลงทุนไป

2. สามรถออกแบบด้วยตัวเอง
       ถ้าคุณต้องการที่จะซื้ออพาร์ทเม้นสำหรับตัวคุณเอง แต่คุณก็ยังหาที่บ้านในฝันยังไม่เจอ โครงการที่เปิดขายล่วงหน้าก็เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นมากขึ้น คุณเป็นผู้ซื้อคุณก็สามารถปรับแต่งอพาร์ทเม้นท์ให้ตรงกับความต้องการหรือรสยิมของคุณได้ มีไม่กี่คนหรอกที่จะบอกได้ว่าฉันชอบรูปแบบของคอนโดนี้ แต่ผมอยากเลือกกระเบื้องห้องน้ำของตัวเอง หรืออื่นๆ คุณสามารถขอสิ่งเหล่านี้ได้ก่อนที่เริ่มสร้างและเสร็จสิ้น




3. การชำระเงิน
      ทุกโครงการก่อนการเปิดขายจะต้องมีแผนการชำระเงินไว้นำเสนอลูกค้าเพราะการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีจำนวนมากขึ้นและจะมีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับต้องการของลูกค้า ดังนั้นไม่เพียงแต่คุณจะซื้อคอนโดในราคาถูกอย่างเดียวแต่คุณยังระยะเวลาในการผ่อนชำระเช่นกัน ปกติแล้วโครงการจะชอบทำสัญญาการขายในโดยการจ่ายเงินเป็นงวดมากกว่าการจ่ายครั้งเดียว

4. ค่าบำรุงรักษาต่ำ-ค่าสวนกลางไม่แพง
      การซื้อคอนโดไม่เหมือนกับการซื้อรองเท้าคู่ใหม่ ของสิ่งนี้มีการสึกกร่อนตามอายุการใช้งาน ถ้าหากคุณซื้อบ้านหรือคอนโดและคุณไม่ได้อยู่เองคุณควรจะปรับปรุงก่อนถึงจะสามารถปล่อยเช่าได้ อาคารจะมีความเก่าและเสียบหายจากลมและฝน ประโยชน์การการซื้อคอนโดที่เปิดขายล่วงหน้าคือ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซมเกินการเริ่มต้นสร้างรายได้และอาคารใหม่จะมีความทันสมัยพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ฃ

     สำหรับในประเทศไทยมีอพาร์ทเม้นท์ที่เปิดขายล่วงหน้าจำนวนมาก ติดต่อสอบถามได้ที่ โคสเทิล เรียลเอทเตสพัทยาเพื่อช่วยคุณหาในสิ่งที่คุณต้องการนั่นเองค่ะ



ข้อดีของการซื้อคอนโด(condo) ที่มีมากกว่าไว้พักอาศัย




       ตอนนี้มีคอนโดเกิดขึ้นให้เราได้เลือกจับจองมากมายทั้งในเมืองกรุง และ ต่างจังหวัด คอนโดจึงกลายเป็นอีกตัวเลือกใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่รักความสะดวกสบาย ยิ่งทำเลที่ตอบโจทย์ และล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชีวิตแล้ว ยิ่งเป็นที่น่าสนใจและ ถูกจับตามองมาในตลาดอสังหาฯ คอนโดทันสมัย ดีไซน์ล้ำ พร้อมการตกแต่งที่มีไลฟ์สไตล์ แถมยังตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ยิ่งคุ้มค่าการลงทุนอย่างมาก เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดทันสมัย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชีวิตของคุณ



ทำไมคอนโด ถึงน่าลงทุน มาดูประโยชน์หลักๆของการลงทุนคอนโดกันค่ะ

1. เพื่อการลงทุน
     การลงทุนในคอนโดมีเนียมเป็นที่นิยมกันมากโดยผู้ลงทุนจะซื้อห้องชุดเพื่อปล่อยเช่าโดยจะนำค่าเช่ามาผ่อนชำระค่างวดในกรณีที่ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน หรือถือเป็นรายรับแทนดอกเบี้ยเงินฝากแทนการฝากเงินกับธนาคารในกรณีซื้อเงินสด หากผู้ลงทุนสามารถเลือกซื้อคอนโดที่มีทำเลดี ก็จะมีผู้เช่าไม่ขาด และเมื่อเวลาผ่านไป ราคาของห้องชุดดังกล่าวขึ้นราคา ผู้ลงทุนก็สามารถขายทำกำไรได้อีกทางหนึ่งด้วยคอนโดมือสอง

2. เพื่อพักอาศัย
      ผ่อนชำระค่างวดกับสถาบันการเงินในการซื้อคอนโดมีเนียมแทนการจ่ายค่าเช่านั้น สามารถทำให้ท่านประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้มากกว่า เพราะการผ่อนชำระกับสถาบันการเงินทุกเดือนนั้นจะลดยอดหนี้ที่ท่านจำนองไว้กับสถาบันการเงิน ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ขาย เงินเหล่านั้นที่จ่ายก็จะกลับคืนมาก และหากราคาของห้องชุดที่ซื้อนั้น ขึ้นราคาตามระยะเวลาแล้ว ก็ยังมีส่วนที่กำไรอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งต่างกับค่าเช่า ของเงินที่จ่ายไปทุกๆเดือนนั้นจะไม่มีวันกลับมาอีกเลย



3. ประหยัดเวลาและค่าเดินทาง
      แม้จะมีเงินมากเท่าไหร่ ก็มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงเท่ากัน หากการเดินทางไปกลับจากที่ทำงานนั้นน้อยลงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเวลาพักผ่อนและมีกิจกรรมอื่นเช่น ออกกำลังกาย มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงสภาพร่างกายและจิตใจด้วย ค่าเดินทางในการขับรถหรือใช้บริการรถสาธารณะก็เป็นค่าใช้จ่ายหลักต่อเดือนเช่นกัน ซึ่งก็รวมถึงค่าเสื่อมของรถที่มองไม่เห็นด้วยในกรณีที่มีรถส่วนบุคคล

4. ลดหย่อนภาษี 
        คนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีการผ่อนชำระ สามารถนำดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในการผ่อนชำระอสังหาริมทรัพย์นั้นมาหักลดหย่อนภาษีประจำปีได้ โดยให้ผู้จ่ายเงินค่าซื้ออสังหาฯ สามารถนำไปหัก ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 3 แสนบาทต่อปี

      นอกจากนี้แล้วยังมีข้อดีอีกมากมาย หากใครที่มีกำลังทรัพย์ แล้วอยากลงทุนอะไรสักอย่าง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ



วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข้อดีในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน มาลงทุนกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์





1. ทำให้นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้เร็วขึ้น โดยการอาศัยเงินทุนจากแหล่งเงินทุนหรือสถาบันการเงินต่างๆ

2. ทำได้ง่าย ทำให้นักธุรกิจที่มีเงินทุนหมุนเวียนไม่มากสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์ราคาหลักล้านได้ง่าย ซึ่งมีผลกับค่าตอบแทนหรือผลกำไรที่จะได้รับมากขึ้นด้วยเช่นกัน

3. ให้ผลตอบแทนในหลายรูปแบบ เช่น การซื้อมาขายไปได้ผลกำไรจากส่วนต่าง หรือการให้เช่าทำให้มีรายได้ทุกๆเดือน

4. มีความเสี่ยงน้อย นอกจากการลงทุนในบ้านและที่ดินให้ผลตอบแทนได้หลายรูปแบบแล้ว อสังหาริมทรัพย์ยังมีราคาสูงขึ้นเฉลี่ย 5-20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ราคาที่สูงขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับทำเลและสภาพความเจริญของแต่ละพื้นที่

5.ได้ส่วนลดภาษีจากดอกเบี้ยที่ผ่อนชำระธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ

6. หากอยู่ในช่วงวิกฤตที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาอสังหาริมทรัพย์มักจะตกหรือมีราคาลดลง นักลงทุนในบ้านและที่ดินสามารถแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุน เช่นนำบ้านและที่ดินให้เช่าแทนการขายออก เนื่องจากราคาค่าเช่ามักจะคงที่หรือลดลงไม่มาก

      สำหรับการกู้เงินมาลงทุนคือกลยุทธ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีผลดีกับธุรกิจมากกว่าผลเสีย และยังมีอัตราความเสี่ยงน้อยกว่าการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาประกอบธุรกิจประเภทอื่น เนื่องจากธุรกิจบ้านและที่ดินสามารถให้ผลตอบแทนได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะในช่วงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมต่ำ เพราะยิ่งใช้เงินกู้ยืมมากยิ่งได้ผลตอบแทนมากเป็นทวีคูณในขณะที่ความเสี่ยงมีน้อย ดังนั้นการกู้ยืมเงินมาใช้ลงทุนในบ้านและที่ดินจึงเป็นกลยุทธ์ที่พึงกระทำนั่นเอง

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำเมื่อกำลังจะเลือกซื้อบ้าน


      สำหรับใครที่อยากมีบ้านสักหลัง ต้องใช้เวลาหาข้อมูลและเก็บเงินนานแสนนานกว่าจะตัดสินใจ แต่นอกจากเวลา เงิน และข้อมูล ยังมีข้อควรรู้อีก 5 ข้อที่ควรรู้ ไว้ว่าไม่ควรทำเมื่อเลือกซื้อบ้าน ถ้ามองข้ามเด็ดขาด เพราะไปอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดหรือเป็นที่มาของสารพัดปัญหาในภายหลัง



1. เชื่อโฆษณามากเกินไป
     เดี๋ยวนี้โฆษณาทำออกมาสวย น่าสนใจ ชวนเชื่อซะจนผู้บริโภคเคลิ้มและคล้อยตามได้ง่ายๆ โดยเฉพาะบ้านและที่อยู่อาศัยที่เลือกใช้การนำเสนอโมเดลหรือภาพจำลองที่ดูดีเกินกว่าความเป็นจริง ใช้เทคนิคถ่ายภาพ - ตกแต่งภาพที่ทำให้สวยได้เพียงปลายนิ้วคลิก ไหนจะสารพัดโปรโมชั่นและส่วนลดที่ระบุเงื่อนไขไว้ตัวเล็กแสนเล็กจนอ่านแทบไม่ออก ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังก็ควรจะเดินทางไปดูสถานที่จริง ดูสภาพโครงการจริงๆ รวมทั้งสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่โครงการให้ชัดเจน อย่าตีความไปตามใจตัวเอง จะได้ไม่ผิดหวังกับบ้านหลังใหม่ที่ตั้งใจจะซื้อ



2. อย่าไว้ใจพนักงานขาย
     หน้าที่หลักของพนักงานขายคือพยายามขายสินค้าให้ได้เร็วที่สุด ก่อนลูกค้าตกลงซื้อ พนักงานขายจึงพร้อมให้ทุกอย่างที่ลูกค้าร้องขอ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดพิเศษ ของแถม เงินดาวน์กรณีที่กู้ไม่ผ่าน หรือแม้แต่คำสัญญาว่าจะแก้ไขข้อผิดพลาดของบ้านหลังลูกค้าเซ็นรับโอน แต่หลังจากที่จ่ายเงินและเซ็นรับโอนแล้ว พนักงานขายอาจไม่ทำตามที่พูด หรือจำสิ่งที่เคยสัญญาไว้ไม่ได้

3. อย่าวางใจโครงการที่มีชื่อเสียง
     ชื่อเสียงและการเปิดทำการมาอย่างยาวนานไม่สามารถรับประกันได้ว่าโครงการที่จะซื้อจะไม่มีปัญหาในภายหลัง ทางที่ดีควรให้ความสำคัญกับผลงานที่ผ่านมา บริการหลังการขาย สถานะการเงินของโครงการ รวมทั้งสอบถามข้อมูลจากลูกค้าเก่าๆ ที่เคยซื้อสินค้าจากเจ้าของโครงการ


4. อย่าเห็นแก่ความสวยงาม
     การเลือกซื้อบ้านควรให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยในบ้านมากกว่าดีไซน์และการออกแบบภายนอก เพราะเราใช้เวลาพักผ่อนในบ้านมากกว่านอกบ้าน แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกบ้านที่สวยด้วย มีพื้นที่ใช้สอยครบตามความต้องการด้วย

5. อย่าสนใจพื้นที่มากกว่าคุณภาพ
      แม้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ แต่บ้านบางหลังให้พื้นที่ใช้สอยมามากเกินความต้องการหรืออาจใช้วัสดุที่ไม่ดี โครงสร้างภายในไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังก็ควรพิจารณาให้ดีว่ารูปแบบบ้าน การออกแบบ พื้นที่ใช้สอย รวมถึงราคาบ้านเหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการดำเนินชีวิตของเราจริงๆ หรือไม่ จะได้ไม่ผิดหวังกับบ้านใหม่ที่ใฝ่ฝันค่ะ

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

9 สิ่งอัปมงคลผิดหลักฮวงจุ้ย ไม่ควรเก็บไว้ในบ้านหรือคอนโด

      บางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า ลงทุนสร้างบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว แต่ทำไมยังพบเจอแต่สิ่งไม่ดี ชีวิตต้องเผชิญกับความโชคร้ายอยู่ร่ำไป นั่นอาจเป็นเพราะมีสิ่งอัปมงคลผิดหลักฮวงจุ้ยหรือของแต่งบ้านอัปมงคลอยู่ในบ้านนั่นเอง 




มาดูกันว่าสิ่งอัปมงคลผิดหลักฮวงจุ้ย ไม่ควรเก็บไว้ในบ้าน  ถ้ามีควรนำไปทิ้ง เพราะถือว่าเป็นสิ่งไม่ดีที่จะนำเรื่องร้าย ๆ มาให้ ว่ามีอะไรบ้าง




1.นาฬิกาตาย

          ในทางฮวงจุ้ยบอกได้กล่าวไว้ว่า ไม่ควรเก็บสิ่งของที่พังเสียหายเอาไว้ในบ้าน โดยเฉพาะนาฬิกาที่ตายแล้ว เพราะมันจะสื่อถึงการเสียชีวิต และอาจจะนำมาซึ่งการสูญเสียภายในบ้าน ถ้าไม่อยากโยนทิ้งก็รีบซ่อมซะ


2. ประตูสีดำ

          เทรนด์การแต่งบ้านด้วยประตูสีดำกำลังมาแรง แต่ในทางฮวงจุ้ยมันกลับหมายถึงประตูที่จะนำพามาซึ่งความโชคร้าย เป็นประตูที่คอยเปิดต้อนรับสิ่งไม่ดีให้เข้ามาในบ้าน ยกเว้นถ้าหน้าประตูบ้านหันไปทางทิศเหนือพอดิบพอดี ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่น่ากังวลนั่นเอง

3. กระจกแตก

          กระจกถือเป็นของใช้ที่จำเป็นชิ้นหนึ่งในบ้านเลยก็ว่าได้ แต่ในทางฮวงจุ้ยนั้น ไม่ว่าจะเป็นกระจกดีหรือกระจกแตก ก็ล้วนสื่อความหมายในทางลบทั้งสิ้น โดยมีความเชื่อกันมาว่ากระจกสามารถดูดวิญญาณทำให้คนในบ้านเจ็บไข้ได้ป่วยและล้มตายได้นั่นเอง

4. ปฏิทินเก่า

          ข้อนี้ไม่ได้หมายความถึงปฏิทินเก่าเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงปฏิทินที่แสดงวัน เดือน และปี ที่ผิดไปจากปัจจุบันอีกด้วย เป็นการสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มาในอดีต ทำให้เกิดผลกระทบในทางลบกับชีวิตของคนในบ้านนั่นเอง


5. จาน-ชามแตก

          ต่อให้เสียดายแค่ไหนก็ควรโยนทิ้ง เพราะการเก็บจาน-ชามที่แตกหรือชำรุดเสียหายเหล่านี้เอาไว้ในบ้านหรือกลับนำมาใช้งาน เท่ากับว่าเป็นการตอกย้ำและสะกดจิตใต้สำนึกของเราให้เปิดรับแต่เรื่องแย่ ๆ เข้ามาในชีวิตและบ้านของเราเอง


6. ต้นไม้มีหนาม

          ต้นไม้มีหนามอย่าง ต้นไม้ตระกูลกระบองเพชรและพืชชนิดอื่น ๆ ยกเว้นกุหลาบนั้น ไม่ควรนำมาปลูกเอาไว้ในบ้าน หรือนำมาประดับตกแต่งภายในบ้านโดยเด็ดขาด เพราะตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าต้นไม้เหล่านี้นำมาซึ่งพลังงานด้านลบและความโชคร้ายมาให้นั่นเอง

7. ต้นไม้ที่ตายแล้ว

          หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลามากพอที่จะดูแลต้นไม้ก็ไม่ควรเลี้ยง เพราะถ้าปล่อยให้มันเหี่ยวแห้ง ขาดน้ำ และยืนต้นตายอยู่ภายในบ้าน ก็เท่ากับว่าเป็นการเปิดทางให้สิ่งไม่ดีและความโชคร้ายก้าวเข้ามาในชีวิต




8. ผนังสีเขียว

          หลายๆ คนอาจจะตกใจว่า สีเขียวเป็นสีธรรมชาติจะมีความหมายถึงสิ่งอัปมงคลได้อย่างไร ซึ่งต้องเท้าความไปในอดีตที่มีการนำสารหนูมาทาผนังให้เป็นสีเขียวและเมื่อผนังเริ่มแห้ง สารที่ทาไปจะปล่อยก๊าซพิษออกมาเพื่อฆ่าคน ดังนั้นจึงเกิดความเชื่อที่ว่าผนังสีเขียวเป็นผนังอัปมงคลนั่นเองค่ะ




9. เก้าอี้โยกที่ไม่ได้ใช้งาน

          บ้านไหนที่ได้รับเก้าอี้โยกเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมา แล้วไม่เคยได้ใช้งานเลย แถมยังตั้งเอาไว้ในบ้านเฉย ๆ รู้หรือไม่ว่านั่นเป็นหลักฮวงจุ้ยที่ผิดอย่างแรง เพราะมีความเชื่อที่ว่า หากปล่อยให้เก้าอี้โยกว่างเปล่าและไม่มีการใช้งาน พลังงานในด้านมืดก็จะมานั่งอยู่บนเก้าอี้แทนที่ ยิ่งถ้าร้ายไปกว่านั้นหากเก้าอี้เกิดโยกเอง แสดงว่ามีวิญญาณร้ายสิงอยู่และจะนำมาซึ่งความโชคร้ายหรือการสูญเสียภายในบ้าน


          จากที่บอกมาทั้งหมดนี้  ก็ลองกลับไปสแกนภายในบ้านดูนะคะว่า มีสิ่งของที่เป็นอัปมงคลเหล่านี้อยู่ในบ้านหรือเปล่า ถ้ามีก็ควรจะรีบจัดการเอาออกนอกบ้านโดยด่วน อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นตัวการขวางทางสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาในบ้านของเราดีกว่าค่ะ

เทคนิคการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เหล็ก ให้คุ้มค่าใช้งานได้นานเกินคิด


สำหรับเฟอร์นิเจอร์เหล็กแต่ละชิ้นดูคล้ายๆ กันไปหมดเมือเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ เลยก็ว่าได้ ยกเว้นแต่เรื่องดีไซน์และสีสันที่ถูกออกแบบมา เพื่อตอบรับกับสไตล์ความชอบที่หลากหลายนั่นเอง  แท้จริงแล้วหากเจาะมองไปถึงรายละเอียดก็จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เพื่อให้ได้เฟอร์นิเจอร์เหล็กที่มีคุณภาพ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มาดูกันค่ะว่า มีวิธีเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เหล็กและมีวิธีการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์เหล็กที่ถูกต้องอย่างไรบ้างค่ะ 



1. ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์เหล็ก

          สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตด้วยวัสดุอื่น ๆ อาจมีปัญหาเรื่องปลวก หักงอง่าย รับน้ำหนักได้ไม่เยอะ แต่เฟอร์นิเจอร์เหล็กผลิตด้วยวัสดุที่แข็งแรง สามารถรองรับของที่มีน้ำหนักเยอะได้ โดยที่แผ่นเหล็กไม่แอ่น บิด หรืองอ ทั้งยังไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องเฟอร์นิเจอร์จะผุพังก่อนเวลา เพราะไม่มีปัญหาเรื่องปลวก เชื้อรา รวมไปถึงกลิ่นอับชื้น แม้จะจัดเก็บเสื้อผ้าหรือของใช้ไว้ในตู้นั้นนาน ๆ นั่นเอง
2. เช็กคุณภาพเหล็ก

           ให้ดูที่การเคลือบผิวเป็นอันดับแรก เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้เฟอร์นิเจอร์เหล็กต้องมีสนิมตามมาอย่างแน่นอน แต่เฟอร์นิเจอร์เหล็กที่เคลือบด้วยสารซิงค์ฟอสเฟตจะช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้ ในส่วนของสีที่ใช้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เหล็ก ก็ควรอบด้วยความร้อนในระยะเวลาที่เหมาะสม จึงจะมั่นใจได้ว่าไม่มีปัญหาเรื่องสีหลุดร่อนตามมาภายหลังนั่นเอง

3. ตรวจเช็กรายละเอียดก่อนซื้อ

          ก่อนจะตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์เหล็กสักชิ้น ก็ควรตรวจเช็กจุดต่าง ๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อน เริ่มจากรอยเชื่อมต่อระหว่างเหล็ก สัมผัสแล้วไม่เป็นปุ่มหรือมีรอยนูน ส่วนสีเคลือบผิวควรมีสัมผัสเรียบเนียน สม่ำเสมอ ไม่มีรอยตะปุ่มตะป่ำ หรือฟองอากาศ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดสนิมและสีหลุดร่อนเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ก็ควรดูให้แน่ใจด้วยว่าเหล็กแต่ละส่วน ไม่มีการบิดหรือโค้งงอที่ผิดรูปร่างหรือป่าวค่อยตัดสินใจซื้อนั่นเอง

4. ดูแลรักษาระหว่างการใช้งาน

          ถึงแม้จะมีการรับประกันการใช้งาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาระหว่างการใช้งานด้วย ซึ่งการทำความสะอาดคราบสกปรกและฝุ่นละอองก็ไม่ยาก ใช้ผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำบิดหมาดและเช็ดตามด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องนำไปล้างหรือใช้น้ำยาขัด สำหรับคราบสกปรกฝังแน่นหรือคราบเหลืองบนเฟอร์นิเจอร์เหล็กสีขาวในจุดที่โดนแสงไฟนาน ๆ ก็แก้ไขได้ด้วยการใช้สเตคลีนขัดออกเท่านั้น 

         

5. ข้อควรระวังเป็นพิเศษ

          บ้านไหนที่มีเด็กเล็กควรระมัดระวังเรื่องความแหลมคมของขอบและมุมเฟอร์นิเจอร์เป็นพิเศษ เพราะแม้จะทำอันตรายได้ไม่มาก แต่ก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นหลีกเลี่ยงโดยการไม่ให้พวกเขาเข้ามาเล่นใกล้ ๆ หรือติดตัวครอบมุมเฟอร์นิเจอร์ป้องกันไว้ล่วงหน้าดีกว่า

6. วิธีเลือกสีและดีไซน์ให้เข้ากับของตกแต่งเดิม

          หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเฟอร์นิเจอร์เหล็กจะเข้ากับของแต่งบ้านที่มีอยู่หรือไม่ ให้ลองนึกถึงภาพบรรยากาศภายในบ้าน พร้อมกับจินตนาการต่อไปว่าถ้าเรานำเฟอร์นิเจอร์เหล็กที่ชอบไปวางในห้องหรือบริเวณนั้น จะเข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่หรือเปล่า หรือใช้เฟอร์นิเจอร์เหล็กชิ้นเดียวกันนี้แต่ลองเปลี่ยนโทนสีดู เพื่อให้รู้ว่าควรจะซื้อดีหรือไม่ โดยใช้สไตล์และธีมเป็นหลักในการเทียบเคียง

          เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเหล็ก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ของการตกแต่งบ้านที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะแข็งแรง ทนทาน ทั้งยังมีปัญหาน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมดูและรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องระหว่างการใช้งานด้วยนะคะ เพื่อให้ใช้งานได้นาน ๆ และดูเหมือนใหม่อยู่เสมอนั่นเอง







ที่มา home.kapook

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

ข้อดี-ข้อเสีย ของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์



การลงทุน อสังหาริมทรัพย์  ในปัจจุบัน มีความเสี่ยง ต้องคิดถึงปัจจัย ค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างควบคู่กันไปด้วย เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าครองชีพ  เป็นต้น อย่างการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็จำเป็นต้องไตร่ตรองก่อนเช่นกัน ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าที่จะได้รับ และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบครอบ  ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

ข้อดีของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
1. ได้ผลตอบแทน อสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การซื้อมาขายไปเท่านั้น ยังสามารถปล่อยเช่าเก็บเงินรายเดือนได้ ซึ่งสามารถนำค่าเช่านี้มาผ่อนอสังหาริมทรัพย์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งส่วนนี้จริงๆ ถือเป็นกำไร หรือสุดท้ายหากต้องการขายต่อ ก็จะได้เงินทั้งจากการขาย และส่วนต่างจากค่าเช่าอีกด้วย หากวางแผนดีๆ อาจจะได้กำไร 2 ต่อเลย
2. เป็นเจ้านายตัวเอง แม้ว่าจะยังเป็นพนักงานประจำอยู่ ก็สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้ เพราะการลงทุนนี้ไม่จำเป็นต้องมานั่งทำงาน สามารถกำหนดและควบคุมรายรับ รายจ่าย และจัดการปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองได้ มีอิสระในการคิดและลงมือทำ
3. ความผันผวนต่ำ ราคาอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันหรือสองวัน แต่ใช้ระยะเวลานานเป็นปีๆ กว่าจะมีการขึ้นหรือลงของราคา ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จะค่อนข้างมั่นฝจในการลงมุนในอสังหาริมทรัพย์ มั่นใจได้ว่าเงินต้นจะไม่หายไปอย่างรวดเร็วแน่นอน แต่นักลงทุนควรต้องศึกษามาเป็นอย่างดีแล้วว่าทำเลที่เลือกนั้นจะสามารถเพิ่มขึ้นได้
4. ผู้อื่นมาลงทุนให้ได้ ก็คือเงินของธนาคารนั่นเอง นักลงทุนบางครั้งอาจจะกู้เงินจากธนาคารได้เกือบ 100%  หากการลงทุนประสบความสำเร็จ ก็ถือว่าคุณสามารถทำกำไรได้โดยไม่ต้องควักเงินตัวเองเลย
5. สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้
    - ดอกเบี้ยเงินกู้หักภาษี เมื่อมีการกู้เงินซื้อบ้าน สามารถเอาดอกเบี้ยที่ผ่อนบ้านมาลดหย่อนภาษีได้ตาม จำนวนเงินที่ได้จ่ายไปจริง (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท)5.2 หักค่าเสื่อมตามระยะเวลา เป็นวิธีคำนวณที่กฎหมายกำหนด ซึ่งความเป็นจริงทรัพย์อาจไม่ได้เสื่อมเต็มมูลค่าที่เรา­ขอลดหย่อน
    -  ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ เมื่อขายบ้านที่ถือครองเกิน 5 ปีก็ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ


ข้อเสียในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กันบ้าง
1. สภาพคล่องอสังหาริมทรัพย์ เป็นทรัพย์ที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการซื้อ ขาย หรือ เปลี่ยนมือเจ้าของ ดังนั้นการจะขายอสังหาริมทรัพย์อาจจะได้ได้ทำได้ภานในไม่กี่วัน อาจจะต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือน หรือเป็นปี ในการตัดสินใจ
2. ใช้เวลาหาอสังหาริมทรัพย์ที่ดี เป็นเรื่องยากที่จะหาสิ่งที่ดีที่สุด ต้องใช้เวลาหาสิ่งที่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งราคาและทำเล รวมถึงขั้นตอนในการติดต่อหรือ หาเงินทุนจากธนาคาร ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความอดทนและความทุ่มเทเป็นอย่างมาก
3. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม อาจจะเป็นต้นทุนที่หลายคนมองข้ามไป เพราะอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เพียงแค่ซื้อมาทิ้งไว้เฉยๆ หรือคิดว่ามีคนเช่าแล้วจะสบายแต่อสังหาริมทรัพย์ก็ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้วยการซ่อมแซมให้ดูใหม่อยู่เสมอด้วย เพราะหากปล่อยปละละเลยไม่สนใจก็จะทำให้อยู่ในสภาพทรุดโทรม มูลค่าก็อาจจะลดลงไปด้วย

     เมื่อทราบข้อดี ข้อเสียแล้ว หลายๆคนคงทราบแล้วว่าการลงทุนทุกการลงทันมีความเสี่ยง ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจนะคะ 

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดต่างจังหวัด





       ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ต่างจังหวัดจะมีตึกสูงระฟ้าเป็นที่อยู่อาศัยที่เรียกกันว่า คอนโดมิเนียม  เพราะถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ตากอากาศของคนกรุงเทพฯ หรืออีกแง่ก็เป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อมาเทียบกับ ณ เวลาปัจจุบันคอนโดฯ ในสถานที่เหล่านี้ผุดกันเป็นดอกเห็ดเลยทีเดียว  และไม่ใช่แค่จังหวัดที่ชาวต่างชาติอยู่กันเยอะเท่านั้น ปัจจุบันหลายๆ จังหวัดก็เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมผุดขึ้นมาบ้างแล้ว อย่าง เช่นภาคอีสาน ก็เช่น อุบลฯ ขอนแก่น อุดรฯ สกลนคร นี่ก็มี ภาคใต้ก็ จังหวัดตรัง สุราษฯ และอีกหลายจังหวัดก็กำลังผุดตามๆมา 
            
                 นอกจากนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี เป็นทั้งเมืองท่องเที่ยว ระบบเศรษฐกิจในจังหวัดก็มีตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจก็สูง จังหวัดเหล่านี้ก็อาทิ เชียงราย ระยอง  ขอนแก่น ก็มีวี่แววว่าจะมีการขยายตัวของคอนโดฯ เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะประชากรในจังหวัดมีมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไปและเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ทำเลเหล่านี้ก็จะเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกด้วย


                การตลาดนึงที่เห็นได้ชัดก็คือ การชูจุดขายของการเป็น ที่อยู่อาศัยเมื่อยามเกษียณที่ฮิตกันอย่างยิ่งก็คือ เชียงใหม่ และ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นความลงตัวของความสงบ ความสะดวกสบายและอากาศที่ดี ยิ่งเมื่อ กทม.เผชิญกับวิกฤตการณ์ น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อสองปีก่อน ยิ่งทำให้ทำเลดังกล่าวมีราคาสูงขึ้นในทันที

                ตลาดคอนโดฯ สู่ตลาดต่างจังหวัดนั้นมีทั้งรูปแบบการชูจุดขายเพื่อเป็น บ้านพักตากอากาศ ในยามช่วงวันหยุด ทีนี้เรามาลองพิจารณากันว่า ต้องใช้ปัจจัยใดบ้างประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมต่างจังหวัด

1. ทำเลที่ดี ไม่ว่าจะซื้อบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม ในเมืองหลวงหรือต่างจังหวัด เรื่อง ทำเลต้องมาก่อนปัจจัยอื่นๆ เสมอ เพราะหากซื้อคอนโดมิเนียมที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน ย่านการค้า มหาวิทยาลัย ร้านซักรีด บริการต่างๆ ฯลฯ มีการคมนาคมที่สะดวกปลอดภัย ใกล้ถนนใหญ่

           
2. ยิ่งสูง ยิ่งแพง ราคาขายแต่ละห้องแต่ละยูนิตของคอนโดมิเนียมนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งของห้องยิ่งอยู่ชั้นที่สูง ก็ยิ่งราคาแพงเพราะจะได้วิวที่สูงกว่า ดังนั้นหากงบประมาณถึงพร้อมก็เลือกห้องที่อยู่ชั้นสูงๆ ไปเลย นอกเสียจากว่าเป็นคนที่กลัวความสูงก็อาจจะเลือกชั้นที่เตี้ยที่สุด เช่นเดียวกัน ซื้อคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่า การเลือกชั้นที่สูงก็สามารถตั้งราคาค่าเช่าได้สูงตามไปด้วย

3. เลือกทั้งที ต้องมีวิวสวย การเลือกซื้อคอนโดฯ ในต่างจังหวัด ยิ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวแล้ว แน่นอนว่าย่อมมีจุดขาย อาทิเช่น ถ้าเป็นทำเลที่มีทะเล จุดขายก็อยู่ที่วิวทะเล วิวภูเขา มุมเมือง  เพื่อความสะบายตา ถ้าเป็นคอนโดฯ ที่อยู่บนภูเขา ทำเลก็คือทิวทัศน์ป่าไม้ธรรมชาติที่สวยงาม ถ้าเรื่องของงบประมาณไม่ใช่ข้อจำกัด 


4. ทิศของห้อง โดยปกติคนที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยคงไม่เลือกห้องที่หันหน้าหรือข้างไปทิศตะวันตกอยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้เชื่อเรื่องนี้ แต่โดยธรรมชาติแล้วการหันหน้าหรือด้านข้างไปทางทิศตะวันตกนั้นจะทำให้ผู้อยู่อาศัยเผชิญกับแดดในยามบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ซึ่งทำให้ห้องมีอากาศร้อนไปจนถึงตอนเย็น ดังนั้นถ้าเลือกได้ก็แนะนำให้เลือกห้องที่หันด้านหน้าหรือด้านข้างไปทางทิศตะวันออก เพราะตื่นเช้ามาแสงแดดก็จะช่วยปลุก และในช่วงบ่ายห้องจะได้มีเวลาในการระบายความร้อนออกก่อนที่เจ้าของห้องจะกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น และทำให้ประหยัดแอร์กว่าห้องทางทิศตะวันตกในตอนกลางคืน พยายามหาด้านที่หันหน้าหรือข้างไปทางทิศตะวันออกเพราะว่าจะได้รับแดดเช้า ส่วนตอนบ่ายไม่โดนแดด ตอนค่ำกลับเข้ามาห้องจะได้ไม่ร้อนถ้าเลือกทิศอื่นไม่ได้จริงๆ ก็พยายามเลี่ยงอย่าให้ห้องหันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งจะเจอแดดตอนบ่ายและเย็นทำให้ห้องยังร้อนอยู่

5. ผู้ประกอบการ เรื่อง Brand ก็หมายถึงเรื่องของ ชื่อเสียง”  ชื่อเสียงของบริษัทก็เหมือนชื่อเสียงของคน สิ่งที่เคยทำมาในอดีตจะแสดงถึงภาพลักษณ์ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็อาจจะได้เปรียบในเรื่องของ Brand เพราะโครงการเก่าๆ ในอดีตก็มีให้เห็นอยู่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า รายเล็กๆ หรือบริษัทอสังหาฯ เจ้าใหม่ๆ จะมีผลงานที่ด้อยกว่าเสมอแต่อย่างใด

6. สิ่งที่อยู่ข้างในนั้น ในความหมายนี้ก็คือ ถ้าจะให้ดีควรจะสืบหาให้รู้ให้ได้ว่า บริษัทก่อสร้างบริษัทใดที่สร้างโครงการนั้นๆ เพราะไม่ใช่แค่ แบรนด์ ของ Developer เท่านั้นที่สำคัญ ชื่อเสียงของบริษัทก่อสร้างก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ถ้าบริษัทก่อสร้างมีชื่อเสียงดี ผลงานที่ผ่านมาได้รับการยอมรับ เราก็สามารถมั่นใจได้ว่า คอนโดมิเนียม หลังใหม่ของเรานี้จะมีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน และสวยงามไปอีกนานเท่านาน และอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ

7. ความคุ้มค่า ปัจจัยนี้เราต้องคำนึงว่าความตั้งใจที่จะซื้อคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดเพื่อวัตถุประสงค์อะไร?! เพราะถ้าซื้อเพื่อลงทุนก็ต้องพิจารณาดูว่ากลุ่มลูกค้าในทำเลนั้นคนกลุ่มไหนจะมาเช่า ถ้าอยู่ในจังหวัดที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมอย่าง ระยอง ชลบุรีฯลฯ คนเช่าก็เป็นคนที่ไปทำงานอยู่ที่นั่นที่ไม่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยดังนั้นผู้เช่ากลุ่มนี้ก็คงไม่ต้องการคอนโดฯ ที่ราคาสูงลิบหรือมีความหรูหรามากนัก ดังนั้นลักษณะคอนโดฯ ที่จะซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็ไม่ควรจะลงทุนซื้อห้องราคาแพงมากแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นทำเลเมืองท่องเที่ยว กลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเช่าในระยะสั้น และเราต้องการชูจุดขาย  ดังนั้นหากที่อยู่อาศัยหลังแรกยังคงต้องผ่อนอยู่ การผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกันถึงสองที่ คงไม่ใช่เรื่องที่สบายกระเป๋านัก 

8. ที่จอดรถ  ต้องยอมรับเลยว่าการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม กทม. นั้น เรื่องจำนวนที่จอดรถเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวในการตัดสินใจ เพราะหาคอนโดฯ ที่มีที่จอดรถให้กับลูกบ้านเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ได้ยากเย็นเต็มที เพราะราคาที่ดินแพง (เอาไปทำที่อยู่อาศัยดีกว่า) แต่สำหรับคอนโดฯ ต่างจังหวัดแล้ว เรื่องจำนวนที่จอดรถอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เพราะราคาที่ดินไม่ได้สูงปรี๊ดเท่าในเมืองหลวง หรือต่อให้ที่จอดรถมีไม่เท่ากับจำนวนห้อง ก็เป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเท่านั้น เพราะคนที่เลือกซื้อคอนโดฯ ต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนในวันหยุดก็ไม่ได้มีเรื่องให้ต้องรำคาญใจทุกๆ วันซะที่ไหนละ

       จากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว แต่ยังคิดไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อคอนโดฯ ที่จังหวัดไหนเพื่อเป็นคอนโดฯ ตากอากาศดี ก็ให้ลองนึกดูว่าชอบภูเขาหรือทะเล ถ้าคำตอบเป็นภูเขาหรืออากาศดีๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น เชียงใหม่ เชียงราย และเขาใหญ่ ซึ่งเป็นทำเลยอดฮิตในชั่วโมงนี้ แต่ถ้าเลือกทะเล ก็คงจะเป็นหัวหิน ชะอำ ระยอง หรือชลบุรี นั่นเอง